• ค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจาก ECB ประกาศที่จะขยายระยะเวลาของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกไปจนถึงปีหน้า ส่งผลให้อัตราผลตอบทนพันธบัตรปรับลดลง ขณะที่ค่าเงินยูโรวันนี้อ่อนค่าลงมาที่ระดับ 1.1626 ยูโร/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นอัตราอ่อนค่าลงที่มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2016
ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.2% ที่ระดับ 94.800 จุด เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ขณะที่ภาพรวมรายสัปดาห์ปรับแข็งค่าขึ้นมา 1.1% โดยตลาดยังคงจับตาไปที่ข่าวเกี่ยวกับว่าที่ประธานเฟดคนต่อไป
ทั้งนี้ รายงานจากทำเนียบขาวระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีตัวเลือกผู้ที่จะมารับตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไป อยู่ 2 คน ได้แก่ นายเจอโรม โพเวล คณะกรรมาธิการเฟด และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Stanford แต่ยังไม่มีรายงานว่านายทรัมป์จะตัดสินใจเลือกใครกันแน่
ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า นายทรัมป์น่าจะเปิดเผยชื่อของผู้ที่จะรับตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไปก่อนหน้าการเดินทางไปเยือนทวีเอเชียอย่างเป็นทางการช่วงต้นเดือน พ.ย.นี้
• ผลสำรวจโดย Reuters ประเมิน GDP ประจำไตรมาสที่ 3/2017 ของสหรัฐฯจะออกมาลดลงที่ระดับ 2.5% เทียบกับระดับเดิมของไตรมาสที่ 2/2017 ที่ 3.1% ท่ามกลางการชะลอของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนฮาร์วี่ย์และเออร์มา แต่สัญญาณการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่งจากภาคการลงทุนในภาคอุปกรณ์
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์แห่งสหรัฐฯ จะประกาศตัวเลข GDP ประจำไตรมาสที่ 3/2017 ในคืนนี้เวลาประมาณ 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนมองว่า ตัวเลขGDP ของไตรมาสที่ 3/2017 จะออกมาเท่ากับหรือมากกว่า GDP ของไตรมาสที่ 2/2017
• ผลสำรวจคาดการณ์เงินเฟ้ออีซีบีในวันนี้ เผยว่า อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนอาจปรับตัวสูงขึ้นได้เร็วกว่าที่คาดในรอบ 5 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจของอีซีบีในการจำกัดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมที่ผ่านมา
การขยายตัวของดัชนีราคาคาดว่าจะขยายตัวแตะ 1.9% ในช่วงปี 2022 ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายของอีซีบีและสามารถยืนเหนือ 1.8% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 1.9% ในปี 2018 และ 1.7% ในปี 2019 โดยปรับขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับคาดการณ์เดิมในช่วง 3 เดือนก่อน ขณะที่ระยะยาวการขยายตัวในปี 2022 มองวไ้ที่ระดับ 1.6%
สำหรับอัตราว่างงานมีแนวโน้มจะปรับลดลงอย่างรวดเร็วตลอดจนปี 2018 และ 2019 โดยคาดการณ์อัตราว่างงานระยะยาวคาดจะปรับลดลงสู่ 0.2%
• นายสตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า จะดำเนินการคว่ำบาตรนิติบุคคลอีกจำนวน 7 ราย และ 3 บริษัทฯที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางเกาหลีเหนือ หลังงจากมีรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดย นายคิม จองอึน
นอกจากนี้ นายมนูชินยังระบุว่า เป้าหมายของการคว่ำบาตรครั้งนี้มีขึ้นเพื่อทางการทหารของเกาหลีเหนือและข้อกำหนดต่อเหจ้าหน้าที่บางส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมุ่งเน้นไปยังบุคคลที่เกื้อหนุนทางการเงินแก่เกาหลีเหนือผ่านการจำกัดรายได้จากค่าเงินต่างประเทศตลอดจนการจัดการด้านแรงงาน
• สถาบันจัดอันดับ Moody’s กล่าวว่า จากรายชื่อผู้เข้ารับตำแหน่งที่เปิดเผยออกมาภายหลังการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 19 เชื่อว่านายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ต้องการจะเสริมอำนาจของตัวเองภายในรัฐสภาให้แข็งแกร่งมากขึ้น ดังนั้นจะส่งผลให้นโยบายการปฏิรูปเศรษฐกิจและคืนสมดุลให้กับตลาดจีน สามารถดำเนินการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
• สำนักงานสถิติจีน (NBS) เผย ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมในจีนประจำเดือนก.ย. พุ่งสูงขึ้น 27.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน และสูงขึ้นจากเดิมที่ระดับ 24% ในเดือนส.ค.
ทั้งนี้ ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมขยายตัวได้ 22.8% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2017 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หรือเมื่อเทียบกับช่วงม.ค. – ส.ค. ที่อยู่ที่ระดับ 21.6% โดยภาคอุตสาหกรรมของจีนได้รับอานิสงส์จากการก่อสร้างที่เป็นที่นิยมมากขึ้นจากภาวะอุปทาน รวมทั้งดัชนีราคา Factory-Gate รวมไปถึงผลกำไรที่แข็งแกร่งในภาคการผลิตของปีนี้ จึงจะช่วยเพิ่มช่องว่างในการลดปริมาณหนี้สินของจีนจำนวนมากได้
• ราคาน้ำมันดิบ Brent ทรงตัวใกล้ระดับ 60 เหรียญ โดยได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของซาอุดิอาระเบียเกี่ยวกับการลดกำลังผลิตของกลุ่มโอเปก
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 0.05% ที่ระดับ 59.33 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 0.06% ที่ระดับ 52.61 เหรียญ/บาร์เรล จากปริมาณการผลิตสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าในสหรัฐฯลดลง