นางคริสติน่า ฮูปเปอร์ นักวิเคราะห์แนวหน้าจาก Invesco ประเมินว่า นโยบายปฏิรูปภาษีที่ระบุว่าจะปรับลดภาษีนิติบุคคลสู่ระดับ 20% จากเดิมที่ระดับ 35% หากสามารถผ่านมติสภาไปได้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงในจุดนี้ จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ “ทรงพลัง” มากที่สุดปัจจัยหนึ่ง
ทั้งนี้ นางคริสติน่าเชื่อว่า มีโอกาสมากกว่า 50% ที่อัตราภาษีนิติบุคคลที่จะได้รับการปรับลดสู่ระดับ 20% จะไม่มีเปลี่ยนแปลงสำคัญใดๆ หลังจากผ่านการพิจารณาโดยสภาคองเกรส เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวเปรียบเสมือนหัวใจหลักของนโยบายปฏิรูปภาษี
นอกจากนี้ นางคริสติน่ายังคาดการร์ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีกอย่างน้อย 5% ในระยะเวลาไม่กี่เดือน เนื่องจากอัตราภาษีของสหรัฐฯไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงเลยตลอดระยะเวลา กว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา
รีพับลิกันจะรักษาสัญญาระดับภาษี 20% ได้หรือไม่?
นางคริสติน่าเตือน หากนโยบายภาษีสามารถผ่านไปได้โดยไม่มีการเปลี่ยนสำคัญใดๆ อาจส่งผลให้บรรดาบริษัทที่มีหนี้สินเยอะ อย่างบรรดาผู้รับเหมาก่อสร้างและเจ้าของบ้าน จะได้รับแรงกดดันอย่างมาก เนื่องจากราคาอสังหาฯจะปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในรัฐที่มีอัตราภาษีอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ ก่อนที่นโยบายปฏิรูปภาษีจะสามารถมีผลบังคับใช้จริง จำเป็นจะต้องผ่านการพิจารณาจากหลายๆฝ่ายในสภาคองเกรส ก่อนที่จะส่งมอบให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯลงนาม ซึ่งมีโอกาสสูงที่นโยบายดังกล่าวจะมีเปลี่ยนแปลงอย่างมากไปจากที่เห็นในปัจจุบัน
นอกจากนี้ นายจาเร็ด เบิร์นสไตน์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Invesco เชื่อว่านโยบายปฏิรูปภาษีจะเปลี่ยนแปลงไปก่อนที่จะมีผลบังคับใช้จริง ซึ่งนั่นก็รวมถึงอัตราดอกเบี้ยนิติบุคคลที่ระบุว่าจะปรับลดสู่ระดับ 20% ด้วยเช่นกัน