• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2560

    8 พฤศจิกายน 2560 | Economic News


• ค่าเงินดอลลาร์รีบาวน์กลับเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่กลับมาเก็งกระแสคาดการณ์การดำเนินนโยบายการเงินต่อไปที่ยังคงมีความแตกต่างกันระหว่างสหรัฐฯและยูโรโซน

ทั้งนี้ ภาพรวมในเดือนที่แล้วอีซีบีมีแผนจะขยายระยะเวลาการเข้าซื้อพันธบัตรในปี 2018 และลดโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะเดียวกันนักลงทุนก็มีการคาดหวังจะเห็นเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า และอีกจำนวน 2 ครั้งในปีหน้า

- ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.35% ที่ระดับ 95.091 จุด โดยเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนบริเวณ 95.15 จุด ที่ทำไว้ในช่วงปลายเดือนที่แล้ว

- ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.31% ที่ระดับ 1.1573 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 20 ก.ค.ที่ระดับ 1.1555 ดอลลาร์/ยูโร

• เมื่อคืนนี้นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวว่า การดำเนินการให้มีประสิทธิภาพของเฟดจะต้องขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นภายในประเทศด้วย โดยเฟดจะดำเนินการตามความสนใจของประชาชนโดยทั่วไปเพียงอย่างเดียวด้วย

• สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า นโยบายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันสหรัฐฯ ได้เริ่มส่งผลต่อตลาดตราสารหนี้ภายในประเทศแล้ว โดยจะเห็นได้มูลค่าตราสารหนี้ปรับสูงขึ้นอย่างมาก ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลง เนื่องจากแผนปฏิรูปภาษีจะทำการปรับลดอัตราหนี้ที่ได้รับการยกเว้นภาษีลง อย่างไรก็ตาม รายละเอียดของนโยบายปฏิรูปภาษีอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปก่อนที่จะมีผลบังคับใช้จริง

• พรรครีพับลิกันแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯเมื่อวานนี้ เผยแผนความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างร่างกฎหมายภาษีฉบับยกเครื่อง ขณะที่หน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือ กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวอาจส่งผลให้ยอดเกินดุลสูงขึ้นและจะช่วยขยายตัวทางเศรษฐกิจได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น

ขณะที่สมาชิกอาวุโสของพรรครีพับลิกันกล่าวว่า ทางสภาผู้แทนราษฎรมีกำหนดจะโหวตร่างกฎหมายดังกล่าวในสัปดาห์หน้า

• สถาบันจัดอันดับ Fitch Ratings คาดการณ์ว่า แผนการปรับลดภาษีของทางพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มจะได้รับชัยชนะในการลงมติของสภาผู้แทนราษฎรและสภาคองเกรส แต่ดูไม่น่าจะมีสิทธิประโยชน์ใดในระยะยาว เนื่องจากน่าจะมีผลเพียงปานกลางและกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพียงชั่วคราวเท่านั้น และอาจนำไปสู่ยอดขาดดุลจำนวนมากต่อระดับหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐฯ

• ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลดลงหลังจากที่ทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ก.ค. ปี 2015 วานนี้ ขณะเดียวความตึงเครียดระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน รวมไปถึงข่าวที่มกุฎราชกุมารซาอุดิอาระเบียทำการจับกุมผู้ทำการคอรัปชันได้เจือจางลงไป

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 58 เซนต์ หรือคิดเป็น -0.9% ที่ระดับ 63.69 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปกว่า 3.5% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 15 เซนต์ หรือคิดเป็น -0.3% ที่ระดับ 57.20 เหรียญ/บาร์เรล

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com