• ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยได้รับผลกระทบจากรายงานที่บ่งชี้ว่าอาจมีการเลื่อนการแผนการปรับลดภาษีนิติบุคคลภายใต้การหารือแผนปฏิรูปภาษีฉบับยกเครื่อง
ดัชนีดอลลาร์อ่อนตัวลงไปประมาณ 0.2% ที่ระดับ 94.844 จุด หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 3สัปดาห์บริเวณ 2.304% เมื่อวานนี้
ค่าเงินเยนแข็งค่ามาแถวระดับ 113.8 เยน/ดอลลาร์ โดยร่วงลงจากระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 8 เดือนบริเวณ 114.735 เยน/ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ทางด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยประมาณ 0.1% บริเวณ 1.1597 ดอลลาร์/ยูโร โดยรีบาวน์ขึ้นปานกลางจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน บริเวณ 1.1553 ดอลลาร์/ยูโร เมื่อคืนนี้
• สำนักข่าว Washington Post รายงานว่า บรรดาส.ส.รีพับลิกัน มีมุมมองการปฏิรูปภาษีแตกต่างกันออกไป จึงอาจส่งผลให้การผลักดันนโยบายภาษีด้านการปรับลดภาษีนิติบุคคลเกิดความล่าช้า ซึ่งรวมถึงการปรับลดภาษีด้านอื่นๆด้วย
ทั้งนี้ แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า บรรดาส.ส.รีพับลิกันมีแนวคิดที่จะชะลอการผลักดันนโยบายการปรับลดภาษีบุคคลออกไปจนกว่าจะถึงปี 2019 เนื่องจากจะช่วยให้บรรดาส.ส.สามารถทำงานเพื่อหาวิธีป้องกันผลกระทบต่อภาวะหนี้สินสหรัฐฯได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ดี จากข้อมูลของผู้เกี่ยวข้องที่ไม่อณุญาตให้เปิดเผยชื่อ ระบุว่า รีพับลิกันยังมีแนวคิดที่จะยกเลิกการปรับลดภาษีของภาครัฐและระดับท้องถิ่นอีกด้วย
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมของเกาหลีใต้ โดยนายทรัมป์ได้ประกาศกร้าวเตือนเกาหลีเหนือว่า “อาวุธนิวเคลียร์ไม่ได้ทำให้พวกเขาปลอดภัย แต่จะเป็นตัวที่พาประเทศของพวกเขาสู่การล่มจม อย่าดูถูกและอย่าลองดีกับพวกเรา”
• นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ ชี้ว่า ภาวะการกีดกันทางการค้ายังคงมีอยู่ และอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในแถบเอเชียทั้งตลาดเปิดและตลาดการค้าเสรีได้หากเกิดการกีดกันทางการค้าขึ้นมา
• รายงานจากสำนักข่าว Reuters ระบุว่า พรรคการเมืองในแคว้นคาตาโลเนียที่สนับสนุนการเป็นเอกราชจากสเปน ประสบความล้มเหลวในการหาข้อตกลงที่เป็นเอกฉันท์ เพื่อดำเนินการต่อต้านการเลือกตั้งก่อนวาระในเดือน ธ.ค. ที่รัฐบาลเสปนกำหนดขึ้นมา
• รายงานยอดส่งออกและนำเข้าจีนชะลอตัวลงในเดือนตุลาคม ส่งสัญญาณว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีนเริ่มได้เริ่มชะลอตัวลงจากการเข้าควบคุมภาวะมลพิษที่เกิดจากกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม หลังจากที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2017
ทั้งนี้ ยอดส่งออกจีนขยายตัวที่ระดับ 6.9% จากปีที่ผ่านมา น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 7.2% เทียบกับระดับ 8.1% ของยอดส่งออกเมื่อเดือนกันยายน
ขณะที่ ยอดนำเข้าขยายตัวที่ระดับ 17.2% จากปีที่ผ่านมา มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 16.0% แต่ช้ากว่าเทียบกับระดับ 18.7% ของยอดส่งออกเมื่อเดือนกันยายน
• ยอดสั่งซื้อวัตถุดิบในประเทศจีน ชะลอตัวลงในเดือนตุลาคม ปรับลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางการเริ่มล้างสต็อกของภาคอุตสากรรม ก่อนหน้าการเข้าควบคุมภาวะมลพิษโดยรัฐบาลจีน
การชะลอตัวส่วนหนึ่งเกิดขึ้นตามฤดูกาล เนื่องจากบางอุตสาหกรรมหยุดทำการชั่วคราวก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว ขณะที่ส่วนหนึ่งเกิดการลดอัตราการผลิตก่อนหน้าการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อเดือนที่ผ่านมา
ด้านยอดนำเข้าสินค้าโภคภันฑ์อย่างน้ำมันดิบและแร่เหล็ก จำพวกถ่านหินและทองแดง ปรับลดลงทั้งหมด ท่ามกลางปริมาณอุปสงค์ในประเทศที่ลดลง
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงในวันนี้ ท่ามกลางปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของจีนที่ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในปีนี้ แม้ว่าเหล่าเทรดเดอร์จะมองว่าภาพรวมตลาดน้ำมันยังคงมีแรงสนับสนุนที่ดีเนื่องจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงมาทรงตัวแถวระดับ 63.33 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีเมื่อช่วงต้นสัปดาห์บริเวณ 64.65 เหรียญ/บาร์เรล
ทางด้านน้ำมันดิบ WTI อ่อนตัวลงมาแถวระดับ 56.9 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีเมื่อช่วงต้นสัปดาห์บริเวณ 57.69 เหรียญ/บาร์เรล
นอกจากนี้ เหล่าเทรดเดอร์จับตาไปยังภาวะความตึงเครียดในตะวันออกกลางอย่างใกลล้ชิด โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน
• ข้อมูล General Administration of Customs ยอดส่งออกน้ำมันของจีนร่วงลงจากระดับสุงสุดเกือบเป็นประวัติการณ์ประมาณ 9 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 7.3 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ ต.ค. ปี 2016 แต่ยอดนำเข้าปรับตัวขึ้น 7.8% เมื่อเทียบรายปี