• ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 6 วันทำการเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ท่ามกลางนักลงทุนที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเปิดเผยรายละเอียดแผนภาษีฉุกเฉินฉบับใหม่ของทางส.ว.พรรครีพับลิกัน
โดยดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาประมาณ 0.4% ที่ระดับ 94.482 จุด ทางด้านค่าเงินเยนแข็งค่าลงมา 0.58% แถวระดับ 113.2 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.1647 ดอลลาร์/ยูโร โดยเป็นการแข็งค่ากลับขึ้นมาจากระดับต่ำสุดวานนี้บริเวณ 1.1585 ดอลลาร์/ยูโร
• นักวิเคราะห์จากอมันดี ไพโอเนีย อินเวสเมนท์ เมเนจเม้นท์ กล่าวว่า ตลาดตอบรับและมีความกังวลต่อรายละเอียดแผนภาษี ที่มีแนวโน้มจะเลื่อนออกไปอีก 1 ปี ซึ่งการตอบรับในเบื้องต้นเป็นการแสดงออกในลักษณะผิดหวังต่อการเผยแผนภาษีของวุฒิสภา
ขณะที่นักกลยุทธ์บางส่วนมองว่า ค่าเงินดอลลาร์กำลังเผชิญกับสภาวะ Risk-off ในขณะนี้ จึงทำให้เราเห็นค่าเงินเยนกลับมาแข็งค่า
พรรครีพับลิกันแห่งสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ ได้เปิดเผยแผนปฏิรูปภาษี ซึ่งมีรายละเอียดแตกต่างจากฉบับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในด้านของระดับภาษีนิติบุคคล ที่รีพับลิกันต้องการจะให้ผลบังคับใช้จริงภายในปี 2019 รวมถึงความแตกต่างในด้านการปรับลดภาษีของภาคธุรกิจและภาษีที่ดิน
ทั้งนี้ สภาคองเกรสมีกำหนดการจะลงมตินโยบายปฏิรูปภาษีตัวนี้ในสัปดาห์หน้า หลังคณะกรรมการจัดหารายได้ได้ลงนามรับรองร่างนโยบายดังกล่าว ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากบรรดาส.ส.พรรคเดโมแครต
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยแผนปฏิรูปภาษีเมื่อคืนนี้ ได้สร้างความผิดหวังให้กับตลาดหุ้นสหรัฐฯจนปรับตัวลดลงไป หลังจากที่ปรับสูงขึ้นมาได้ตลอดจากความหวังในนโยบายภาษี เนื่องจากความกังวลว่านโยบายภาษีอาจต้องล่าช้าออกไปอีกจากความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไประหว่างสมาชิกภายในสภาคองเกรส
• ระหว่างการเผยแผนภาษีวานนี้ นายมาโคร รูบิโอ สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ และนายไมค์ ลี ต้องการให้ภาษีของคนมีบุตรเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2,000 เหรียญ โดยคาดว่าร่างกฎหมายของวุฒิสภาต้องการให้ภาษีของคนมีบุตรเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1,650 เหรียญ จากระดับ 1,000 เหรียญในปัจจุบัน
• จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯขยายตัวขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 239,000 ราย โดยข้อมูลล่าสุดก็ยังต่ำกว่า 300,000 รายต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 139 ซึ่งถือเป็นความต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970 และเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของตลาดแรงงาน
• ความเชื่อมั่นภาคการผลิตของญี่ปุ่นร่วงลงในเดือนพ.ย. จากระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปีในเดือนก่อนหน้า แต่ภาพรวมของผลสำรวจยังชี้ถึงภาวะที่แข็งแกร่ง จึงแสดงให้เห็นว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
• สำนักข่าว Reuters รายงานว่า บรรดานักลงทุนในตลาดจีนเริ่มเข้าถือครองสินทรัพย์ที่เกี่ยวกับการศึกษามากขึ้น เนื่องนักเรียนชาวจีนจำนวนมากเริ่มให้ความสนใจในแนวทางการศึกษาแบบตะวันตก ทั้งแบบเรียนในประเทศและเรียนต่อต่างประเทศ
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเกือบ 1% โดยตลาดยังคงมีแรงสนับสนุนจากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในการปรับลดกำลังการผลิต ควบคู่กับความกังวลทางการเมืองในซาอุดิอาระเบีย
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 44 เซนต์ หรือคิดเป็น +0.7% ที่ระดับ 63.93 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดใกล้ระดับสูงสุดที่ทำไว้เมื่อวานนี้บริเวณ 64.65 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มิ.ย. ปี 2015
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 46 เซนต์ หรือคิดเป็น +0.8% ที่ระดับ 57.27 เหรียญ/บาร์เรล โดยอ่อนตัวจากระดับสูงสุดที่ทำไว้ในสัปดาห์นี้บริเวณ 57.69 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี