• ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางการระมัดระวังการซื้อขาย เนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจว่าพรรครีพับลิกันจะสามารถออกข้อตกลงในการปฏิรูปแผนภาษีได้อย่างรวดเร็วหรือไม่ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงท่ามกลางความไม่มั่นใจในตัวของนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ปรับลง 0.1%
• ตลาดหุ้นยุโรปคาดเปิดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ให้ความสนใจไปยัการผระกาศผลประกอบการ ขณะที่ยังจับตาไปยังแผนปฏิรูปภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯและความวุ่นวานทางอังกฤษ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE ปรับขึ้น 20 จุด ที่ระดับ 7,453 จุด ขณะที่ดัชนี DAX ปรับขึ้น 6 จุด ที่ระดับ 13,124 จุด และดัชนี CAC40 ปรับขึ้น 4 จุด ที่ระดับ 53,81 จุด
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์และบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ จึงกดดันผลกำไรของบริษัที่มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง เช่น Nissin Foods
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด-1.3% ที่ระดับ 22,380.99 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. และถือเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 4 วันทำการ
• ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นภาคธนาคารที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากเหล่านักลงทุนพอใจกับการยกเลิกกฎระเบียบทางภาคการเงิน จึงชะลอความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นจากผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปิด+0.4% ท่ะรดับ 4,128.07 จุด
• ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Hang Seng ปรับตัวสูงขึ้น 0.2% ที่ระดับ 29,182.18 จุด ขณะที่บรรดานักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายเพื่อติดตามข่าวความคืบหน้าของนโยบายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ