· ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 187.08 จุด หรือคิดเป็น +0.8% ที่ระดับ 23,458.36 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.82% ที่ระดับ 2,585.64 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +1.3% ที่ระดับ 6,793.29 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นเพราะได้รับแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นของบริษัท Wal-Mart และ Cisco ขณะที่แผนภาษีสหรัฐฯถูกคาดว่าจะเป็นตัวหนุนผลประกอบการของภาคบริษัทฯเมื่อผ่านร่างกฎหมายในขั้นแรก แม้ว่าจะส่งผลเพียงเล็กน้อยและยังมีอุปสรรคอยู่ก็ตาม
· สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายภาษีฉบับยกเครื่องซึ่งถูกคาดว่าจะเป็นตัวหนุนราคาหุ้นให้เพิ่มขึ้นหากแผนดังกล่าวสามารถกลายเป็นกฎหมายที่ใช้งานจริง แต่พรรครีพับลิกันต้องเผชิญอุปสรรคที่เปลี่ยนมาจับตาไปยังการลงมติของทางวุฒิสภาที่มีเก้าอี้ในสภาไม่ค่อยมากเท่าไหร่นัก ขณะเดียวกันทางพรรครีพับลิกันดูเหมือนจะสูญเสีย 2 คะแนนเสียงของสมาชิกพรรคตัวเองที่ออกมาแสดงการคัดค้านต่อร่างกฎหมายฉบับล่าสุด
· ดัชนี VIX ซึ่งเป็นมาตรวัดความผันผวนของนักลงทุน ดูจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ฉุดให้ดัชนี S&P500 ร่วงลงมา เนื่องจากเมื่อวานนี้ดัชนี VIX ร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการประมาณ 1.4 จุด ปิดที่ระดับ 11.76 จุด
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกท่ามกลางแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังนโยบายปฏิรูปภาษีของ ส.ส.รีพับลิกันสามารถผ่านการลงมติในสภาได้ แม้ตลาดจะทราบดีว่ายังเหลืออีกหลายขั้นตอนกว่านโยบายดังกล่าวจะสามารถมีผลบังคับใช้ได้จริง
· ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ของตลาดหุ้นเอเชีย ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น เปิด +0.1% ขณะที่ดัชนี Nikkei ของตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิด +0.9% ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ร่วงลงไปเมื่อวานนี้
· นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 32.75 - 33.00 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทเมื่อวานนี้ปิดหลุดระดับ 33.00 บาท/ดอลลาร์ลงมาทำ Low แถว 32.83 บาท/ดอลลาร์