แม้จะมีข้อกังขาเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดตามที่สมาชิกเฟดคิดหวังไว้ แต่นักวิเคราะห์หลายรายก็ยังเชื่อว่าทองคำจะยังเป็นขาขึ้นในปี 2018
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ที่มีแนวคิดดังกล่าวมองว่า ความเป็นไปได้จากภาวะตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับปริมาณความต้องการทองคำที่เพิ่มสูงขึ้นจากประเทศหลักอย่างอินเดียและจีน รวมถึงปริมาณความต้องการลงทุนในทองคำเพื่อป้องกันสินทรัพย์เสี่ยงจากทิศทางการฟื้นตัวที่เร็วเกินไปของตลาดหุ้น แต่ในขณะเดียวกันมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจจะยังแข็งแกร่งเพียงพอเพื่อให้สมาชิกเฟดสามารถตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Price Futures Group คิดว่าในปีหน้าจะเป็นปีที่ดีสำหรับทองคำ และน่าจะสดใสนับตั้งแต่ช่วงปีใหม่
หัวหน้านักกลยุทธ์จาก TD Securities (TDS) กล่าวว่า ราคาทองคำจะได้รับอานิสงส์จากเฟดที่จะดำเนินนโยบายด้วยท่าทีค่อยเป็นค่อยไปในการคุมเข้มทางการเงิน ซึ่งการคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำจะเป็นผลบวกต่อทองโดยลดจำนวนโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือสูญเสียรายได้จากการถือครองสินทรัพย์ ที่จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า โดยแนวโน้มของทองคำจะเคลื่อนไหวตรงกันข้ามกับค่าเงินดอลลาร์ ดังนั้นเราจึงไม่คาดว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจะขยับขึ้นได้มากนัก ซึ่งเฟดน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และบางทีอาจจะทำการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้าได้เพียงแค่ 2 ครั้ง และเมื่อพิจารณาจาจากความเสี่ยงเฟดก็อาจทำได้เพียงปรับขึ้นดอกเบี้ยจำนวน 1 ครั้งในปีหน้า
อย่างไรก็ดี Fed dot-plot ซึ่งเป็นตัวสะท้อนมุมมองสมาชิกเฟดก็สะท้อนให้เห็นว่ามีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. และปรับขึ้นอีกจำนวน 3 ครั้งในปีหน้า
นักวิเคราะห์จาก TDS มองว่า ราคาเฉลี่ยทองคำปีหน้าจะอยู่แถวระดับ 1,313 เหรียญ เมื่อเทียบกับคาดการณ์ราคาเฉลี่ยปีนี้บริเวณ 1,257 เหรียญ ขณธที่ราคาเฉลี่ยในช่วงไตรมาสที่ 4/2018 จะอยู่ที่ระดับ 1,325 เหรียญ
หัวหน้านักกลยุทธ์จาก TDS ยังระบุอีกว่า การเลือกประธานเฟดคนต่อไปของนายทรัมป์ คือ “นายเจอโรม โพเวลล์” ดูเหมือนจะดำเนินนโยบายคล้ายคลึงกับนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ในลักษณะ “ผ่อนคลายปานกลาง” ต่อการคุมเข้มทางการเงิน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการอ่อนตัวของเงินเฟ้อในสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์จาก Price Futures Group มองราคาเฉลี่ยทองคำปีหน้าอยู่แถวระดับ 1,400 เหรียญ และบางทีอาจแตะระดับ 1,500 เหรียญได้ หรืออาจบอกได้ว่าหากปีหน้าราคาแตะ 1,400 เหรียญจรงิ ก็จะถือเป็ฯครั้งแรกในรอบ 5 ปี จากภาวะสิ้นสุดทิศทางเชิงบวกทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันจะนำไปสู่ความผันผวนในค่าเงินดอลลาร์
แต่นักวิเคราะห์จาก Societe Generale มองว่าราคาทองคำในปีหน้าอาจร่วงกลับลงแตะระดับ 1,175 เหรียญได้ จากการที่เฟดจะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน รวมไปถึงความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากถึง 3 ครั้งในปีหน้า แต่หนึ่งปัจจัยที่จะเป็นตัวสกัดกั้นการอ่อนตัวของทองคำ น่าจะมาจากประเด็นการรปับลดภาษีของสหรัฐฯที่อาจไม่ช่วยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และอาจทำให้เฟดจำเป็นต้องใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มขึ้น
ที่มา: Kitco