· ราคาทองคำระหว่างวันปรับตัวสูงขึ้น 0.3% ที่ระดับ 1,282.72 เหรียญ หลังดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังรายงานข่าวคณะกรรมการสืบสวนพิเศษแห่งสหรัฐฯได้ส่งหมายศาลไปยังเจ้าหน้าที่ระดับสูงจำนวนหลายรายในทีมบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อบังคับให้ส่งมอบเอกสารทุกอย่างที่มีความเกี่ยวข้องกับกรณีการแทรกแซงการเลือกตั้งโดยรัฐบาลรัสเซีย ทั้งนี้ราคาทองคำในภาพรวมรายสัปดาห์ปรับตัวสูงขึ้นได้ 0.5%
· ด้านราคาสัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธันวาคม ปรับสู.ขึ้น 0.4% ที่ระดับ 1,282.70 เหรียญ
· นักเศรษฐศาสตร์ประจำ National Australia Bank กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้ทองคำได้รับความสนใจมากขึ้นในตลาดเอเชีย อย่างไรก็ตาม จากความกังวลเกี่ยวกัวความคืบหน้าของนโยบายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ และโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคม ยังคงส่งญาณผสมผสานให้กับตลาดทองคำ จึงคาดว่า ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบระหว่าง 1,260 – 1,290 เหรียญ ในระยะสั้นๆ
· สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรแห่งสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ ได้ลงมติอนุมัติร่างนโยบายปฏิรูปภาษีของ ส.ส.รีพับลิกัน ให้สามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ ขณะที่ทางฝ่ายสมาชิกวุฒิสภายังต้องคอยลุ้นการลงมติร่างนโยบายภาษีของพวกเขา
· สถาบันวิจัย BMI คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวแบบ Sideways ในช่วงเดือนต่อๆไปท่ามกลางกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และการควบคุมปริมาณอุปสงค์การลงทุนของรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะที่ราคาทองคำในระยะยาวมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ จากการรีบาวน์ของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ
· นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวย้ำว่า หากเศราบกิจสหรัฐฯยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เฟดก็จะมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปสู่ระดับ 2.5% ในระยะเวลาไม่กี่ปี
· ขณะที่ นางลอเร็ตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯจะสามารถขยายตัวขึ้นได้ จึงจะช่วยหนุนโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอย่างต่อเนื่อง
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,270 – 1,286 เหรียญ และมีแนวโน้มที่จะขึ้นต่อไปถึงระดับ 1,298 เหรียญ
· ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.3% เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลักส่วนใหญ่
· ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 0.1% ที่ระดับ 17.098 เหรียญ ขณะที่ภาพรวมรายสัปดาห์ ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้นไปได้ 1.1% ซึ่งเป็นอัตราที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์