• ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 100.12 จุด หรือคิดเป็น -0.43% ที่ระดับ 23,358.24 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ปิด -0.26% ที่ระดับ 2,578.85 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -0.15% ที่ระดับ6,782.79 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ปรับร่วงลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแผนปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน ขณะที่ผลสำรวจโดย Reuters พบว่า นักเศรษฐศาสตร์จำนวน 2 ใน 3 ไม่เชื่อว่ารีพับลิกันจะสามารถผลักดันให้นโยบายภาษีประสบความสำเร็จได้ภายในปีนี้
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสานกันในเช้าวันนี้ หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดร่วงลงในคืนวันศุกร์จากความกังวลเกี่ยวกับแผนภาษีของสหรัฐฯ โดยดัชนีนิกเกอิเช้านี้เปิด -0.22% ขณะที่ดัชนี Topix ร่วงลง 0.2% ทางด้านดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.33%
• รายงานจาก CNBC ชี้ว่า นักวิเคราะห์มีท่าทีระมัดระวังต่อท่าทีเชิงบวกของแผนปฏิรูปภาษีที่ดูจะแล้วเสร็จได้ในปีนี้ ซึ่งนายสตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้แสดงความคาดหวังว่า พรรครพับลิกันจะสามารถนำร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีส่งมอบให้ทางประธานาธิบดีสหรัฐฐฯได้ภายในช่วงคริสต์มาสนี้ หลังจากที่ทางส.ส. ได้ผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีแล้ว และจะมีการลงมติต่อจากทางส.ว. ในสัปดาห์นี้
• นักบริหารการเงิน ประเมินว่า สัปดาห์นี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70 – 33.00 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาสที่ 3 ของไทย และรายงานประชุมเฟดระหว่างรอบการประชุม 31 ต.ค. – 1 พ.ย. รวมไปถึงข้อมูลยอดขายบ้านมือสอง ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซ้อภาคการผลิตและบริการ (PMI) ของทางสหรัฐฯ
• สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) จะแถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาส 3/60 ในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ตลาดคาดการณ์ว่าจะเติบโตในระดับ 3.8-4% ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น