• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560

    20 พฤศจิกายน 2560 | Economic News


• ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.31% ที่ระดับ 93.645 จุดในคืนวันศุกร์ ขณะที่ภาพรวมสัปดาห์ที่แล้วอ่อนค่าลงประมาณ 0.8% ตามความอ่อนแอของตลาดหุ้นสหรัฐฯและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล หลังตลาดเกิดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของแผนปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.23% ที่ระดับ 1.1796 ดอลลาร์/ยูโร

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ปรับลดลงจากระดับ 2.361% สู่ระดับ 2.3452% ในคืนวันศุกร์ ท่ามกลางความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่ลดลงในตลาด ขณะที่เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Curve) ยังคงทรงตัว หลังตัวเลขที่อยู่อาศัยสหรัฐฯประกาศออกมาแข็งแกร่ง และจากกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

• เกิดความกังวลกับบรรดาธนาคารในตลาดโลก ว่านโยบายปฏิรูปภาษีของ ส.ว. รีพับลิกันแห่งสหรัฐฯ ที่มุ่งป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีขององค์กรนานาชาติทั่วโลก อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบภาคธนาคารได้

ทั้งนี้ เดิมทีแล้วภาคธนาคารดูมีท่าทีจะได้รับผลประโยชน์จากแผนปฏิรูปภาษีมากที่สุด และภาคธนาคารก็ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด (หน่วยงาน International Swaps and Derivatives Association and the Securities Industry and Financial Markets Association ประกอบไปด้วย Goldman Sachs Group Inc, Morgan Stanley, Citigroup Inc และ JPMorgan)

แต่หลังมีรายงานว่า เครือธนาคาร 2 แห่ง ได้ส่งจดหมายถึงคณะกรรมการการเงินแห่งสภาวุฒิสมาชิก โดยระบุว่า การป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีจากองค์กรนานาชาติ อาจส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการบริหารความเสี่ยงสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อตลาดในภาพรวม

• นายมิค มัลวานี หัวหน้าคณะกรรมการบริหารงบประมาณประจำรัฐสภา เผย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ได้บังคับให้ ส.ว. รีพับลิกัน ทำการยกเลิกนโยบายโอบามาแคร์ผ่านร่างนโยบายปฏิรูปภาษีแต่อย่างใด รวมถึงไม่น่าจะมีส่วนช่วยให้ร่างนโยบายสามารถผ่านการลงมติในสภาได้ง่ายขึ้นแต่อย่างใด

• รายงานจาก Reuters ระบุว่า นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประสบกับอุปสรรคในการเจรจาเพื่อก่อตั้งรัฐบาลร่วม หลังพรรค Free Democrats (FDP) ถอนตัวออกจากการเจรจากับนางแมร์เคิลอย่างคาดไม่ถึง โดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันในเรื่องการอพยพและสิ่งแวดล้อมได้ ส่งผลให้อำนาจการปกครองในฐานะนายกรัฐมนตรีวาระที่ 4 ของนางแมร์เคิล มีท่าทีจะดำเนินไปได้ไม่ราบรื่นนัก

ทั้งนี้ นางแมร์เคิลจะดำเนินหารือกับพรรค Greens เพื่อก่อตั้งรัฐบาลร่วมต่อไป หรืออาจจะมีประกาศจัดการเลือกตั้งก่อนวาระครั้งใหม่ได้

• ประธานธนาคารกลางของประเทศบลาซิล คาดการณ์ว่า เฟดจะคงนโยบายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจของทวีปอเมริกาใต้ยังคงเติบโตได้อย่างช้าๆเช่นเดิม

นอกจากนี้ เขายังได้คาดการณ์ว่า นายเจอโรม โพเวล คณะกรรมการเฟด ที่จะขึ้นรับตำแหน่งประธานเฟดแทนนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน จะยังคงนโยบายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปเช่นกัน ซึ่งนั่นจะเป็นผลดีต่อตลาดเกิดใหม่

• รายงานจากสำนักงานสถิติแห่งประเทศจีน เผย ราคาบ้านใหม่ในประเทศจีนปรับตัวสูงขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค.ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่เร็วขึ้นเล็กน้อย เทียบกับระดับ 0.2% ในเดือนก่อนหน้าเนื่องจากราคาผันผวนตามยอดขายบ้านที่ลดลงไป รวมถึงสภาพคล่องของตลาดอสังหาฯที่ลดลง

ขณะที่ภาพรวมรายปี ราคาบ้านปรับสูงขึ้น 5.4% ในเดือนต.ค. โดยปรับลดลงจากระดับ 6.3% ที่วัดได้ในเดือนกันยายน เนื่องจากการเข้ามาควมคุมตลาดของรัฐบาลจีน เพื่อป้องกันไม่ได้ราคาปรับลดลงรวดเร็วเกินไป

• ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิด +2.2% ที่ระดับ 62.72 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด +2.6% ที่ระดับ 56.55 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบปิดบวกมากกว่า 2% ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ปรับลดลงติดต่อกัน 5 ช่วงตลาด โดยราคาปรับสูงขึ้นเนื่องจากตรวจพบรอยรั่วบนท่อส่งน้ำมันของบริษัทTransCanada Corp ที่มีการส่งน้ำมันมากถึง 590,000 บาร์เรล/วัน รวมกระแสคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกจะทำการขยายระยะเวลาของมาตรการลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 30 พ.ย. นี้

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ถือได้ว่าราคาน้ำมันปรับร่วงลงเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 6 สัปดาห์ ท่ามกลางแรงกดดันจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำมันสหรัฐฯ และความกังวลว่ารัฐบาลรัสเซียจะสนับสนุนการขยายระยะเวลาของมาตรการลดกำลังการผลิตร่วมกับกลุ่มโอเปกหรือไม่

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com