• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560

    21 พฤศจิกายน 2560 | Economic News


  

• ค่าเงินดอลลาร์ดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยในตลาดเอเชีย โดยดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.1% สู่ระดับ 94.029 จุด เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ แต่ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ท่ามกลางแรงกดดันในค่าเงินยูโรจากประเด็นความตึงเครียดทางการเมืองเยอรมนี

ด้านค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.1% ที่ระดับ 1.1739 ยูโร/ดอลลาร์ หลังจากที่ปรับอ่อนค่าลงไปที่ระดับ 1.1722 ยูโร/ดอลลาร์ ซึ่งเกิดจากความตึงเครียดทางการเมืองหลังนางอังเกล่า แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประสบความล้มเหลวในการเจรจาเพื่อก่อตั้งรัฐบาลร่วม

• รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า ส.ส.และส.ว.ของพรรครีพับลิกันจะมีการอภิปรายรายละเอียดร่างงบประมาณอีกครั้งก่อนที่วุฒิสภาจะลงมติก่อนช่วงสิ้นเดือนนี้ (30 พ.ย.) ขณะที่ทางรัฐบาลพยายามจะสร้างกรอบเวลาในการดำเนินนโยบายให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเนื้อหาหลักได้ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมของปี 2018 แต่พรรครีพับลิกันก็อาจไม่ประสบความสำเร็จในการปรับเนื้อหาได้ทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากจะเข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาล Thanksgiving และคาดว่าเมื่อสมาชิกสภานิติบัญญัติกลับมาปฏิบัติหน้าที่ ก็จะมีเวลาเพียง 15 วันที่จะบรรลุร่างกฎหมายให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2017 นี้ ดังนั้น จึงคาดการณ์ว่า ทางส.ว. จะมีการโหวตร่างภาษีในระหว่างสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ หากทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับการลงมติของส.ว. ที่มีแนวโน้มจะลงคะแนนในช่วงเย็นวันที่ 30 พ.ย.นี้ หรือช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 1 ธ.ค. ซึ่งมักจะเกิดขึ้นหลังจากการลงมติชั่วข้ามคืนเพื่อเสนอหาข้อแก้ไขบัญญัตในข้อกฎหมายร่วมกันจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครต

อย่างไรก็ดี ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่ในมุมมองของแผนภาษีของทางสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยวุฒิสภามีเป้าหมายที่ต้องการแทนที่ร่างกฎหมายประกันสุขภาพรายบุคคลด้วย เพื่อเป็นการยกเลิกกฎหมาย Obamacare ที่เกิดขึ้นในปี 2010 ไปในตัว และแผนดังกล่าวอาจจะทำให้การปรับลดภาษีนิติบุคคลอาจต้องเลื่อนออกไปในปีหน้า และอาจทำให้เกิดการปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเพียงการปรับลดชั่วคราวเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ดูเหมือนแผนภาษีฉบับล่าสุดทางพรรครีพับลิกันก็อาจได้รับเสียงสนับสนุนไม่เพียงพอจากสมาชิกภายในพรรค

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัญญาในที่ประชุมในรัฐสภาเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าเขาจะผลักดันนโยบายภาษีให้สำเร็จในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เพื่อเป็นของขวัญให้กับชาวสหรัฐฯ แม้นักวิเคราะห์จากรัฐบาลกลาง ได้โต้แย้งว่าร่างนโยบายภาษีของ ส.ว. รีพับลิกันจะทำให้ชาวสหรัฐฯมากกว่าครึ่ง กลับต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นในปี 2027

• รายงานจาก Reuters ระบุว่า สหภาพยุโรปได้เลือกให้กรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เป็นที่ตั้งสำหรับธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (European Banking Authority) ซึ่งเดิมทีตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ และจะมีผลทันทีหลังอังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป

นอกจากนี้ ทางสหภาพยุโรปยังมีมติตัดสินให้กรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งแห่งใหม่สำหรับสำนักงานยาและเครื่องมือแพทย์แห่งสหภาพยุโรป (European Medicines Agency) แทนที่กรุงลอนดอนของอังกฤษอีกด้วย

• รัฐบาลกรีซมีแนวโน้มที่จะปรับคาดการณ์ยอดเกินดุลการค้าประจำปี 2017 สู่ระดับ 2.4 – 2.5% จากเดิมที่ 2.2% และสำหรับปี 2018 สู่ระดับ 3.7% จากเดิมที่ 3.57% ซึ่งจะมีผลช่วยลดภาวะความตึงเครียดของพลเมืองกรีซที่ได้รับผลกระทบจากช่วงเงินฝืด

• รัฐบาลเกาหลีใต้และญี่ปุ่นต่างเห็นด้วยกับการที่ผู้นำสหรัฐฯเพิ่มชื่อเกาหลีเหนือลงบัญชีรายชื่อประเทศที่ให้การสนับบสนุนการก่อการร้าย เพื่อที่สหรัฐฯจะสามารถออกนโยบายคว่ำบาตรเพิ่มเติมได้ โดยผู้นำทั้งสองประเทศเชื่อว่า จะเป็นหนทางที่นำไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้อย่างสันติ

นอกจากนี้ นายเร็กส์ ทิลเลอสัน เลขาธิการกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ ยังได้กล่าวสนับสนุนการตัดสินใจดังกล่าวของผู้นำสหรัฐฯ ว่าจะสามารถทำให้เกาหลีเหนือสูญเสียการสนับสนุนจากมือที่สามได้อีกด้วย

• ราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในวันนี้ ท่ามกลางผลกระทบจากความหวังที่ว่ากลุ่มโอเปกขยายเวลาการปรับลดการผลิต แม้ว่าผลผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯจะเพิ่มขึ้นก็ตาม

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent อยู่ที่ระดับ 62.20 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 8 เซนต์ ที่ระดับ 56.50 เหรียญ/บาร์เรล

โดยเหล่าเทรดเดอร์ ระบุว่า พวกเขาหลีกเลี่ยงการเปิดสถานะใหม่เนื่องจากความไม่แน่นอนในตลาด

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com