• ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 103.97 จุด หรือคิดเป็น +0.44% ที่ระดับ 23,940.68 จุด ด้านดัชนี S&P500 ปิด -0.04% ที่ระดับ 2,626.07 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง -1.27% ที่ระดับ 6,824.34 จุด
ดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลงระดับรายวันมากที่สุดในรอบกว่า 3 เดือน ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่เทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุด และหันไปถือครองหุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นอื่นๆในตลาดที่อาจให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตามเงื่อนไขทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น การปรับลดข้อกำหนดและภาษี รวมไปถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงิน ภาคอุตสาหกรรมและสุขภาพ ได้ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ให้ยังทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และทำให้ดัชนี S&P500 ปิดทรงตัว
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ จากราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวหลังจากที่ปิดร่วงลงไปเมื่อคืนนี้ โดยนักลงทุนในภูมิภาคจับตาปัจจัยสำคัญที่จะประกาศในคืนนี้ร่วมด้วย โดยดัชนีนิกเกอิเช้านี้เปิด -0.06% ตามการร่วงลงของหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ขณะที่ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ปิด -0.84% ก่อนทราบการตัดสินใจของธนาคารกลางเกาหลีเกี่ยวกับเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ถูกคาดการณ์ว่าจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี
• นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์ โดยระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์ถือเป็นแนวรับสำคัญทางจิตวิทยา หลังจากแข็งค่าต่อเนื่องหลุดระดับ 32.80 บาท/ดอลลาร์ และ 32.60 บาท/ดอลลาร์จากระดับ 33.00 บาท/ดอลลาร์ของเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ถือว่าเป็นการแข็งค่าที่ค่อนข้างเร็ว