• ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในคืนวันศุกร์จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์และการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังสำนักข่าว ABC News รายงานว่า นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯให้การว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีคำสั่งโดยตรงเพื่อให้ตัวเขาทำการติดต่อกับรัสเซียในช่วงหาเสียงเลือกตั้งเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
โดยรายงานดังกล่าวได้เข้ากดดันให้ตลาดหุ้นปรับตัวร่วงลงทันที จากความกังวลที่ว่าภาวะทางการเมืองล่าสุดอาจส่งผลกระทบต่อการสนับสนุนแผนภาษีของนายทรัมป์ แต่หลังจากนั้นราคาทองคำก็อ่อนตัวลงมาหลังจากการลงมติของวุฒิสภาสหรัฐฯมีคะนนเสียงเพียงพอในการลงมติผ่านร่างแผนภาษี
• ภาพรวมราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวขึ้นได้ 0.3% ที่ระดับ 1,278.01 เหรียญ หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,289.5 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ปิดปรับขึ้น 5.6 เหรียญ หรือคิดเป็น +0.4% ที่ระดับ 1,282.3 เหรียญ
• กองทุน SPDR ทำการซื้อทอง 8.56 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 848.11 ตัน
• นักวิเคราะห์จาก Commerzbank กล่าวว่า แผนปฏิรูปภาษีจะส่งผลลบต่อราคาทองคำ เนื่องจากอาจจะทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งจำนวนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้อาจส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัว โดยได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มเชิงบวกทางเศรษฐกิจและความคาดหวังต่อแผนปฏิรูปภาษี โดยจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากกระแสคาดการณ์ต่อแผนภาษีดังกล่าว
• อย่างไรก็ดี การปราศจากปัจจัยขับเคลื่อนที่ชัดเจนจึงทำให้ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวระหว่าง 1,265 – 1,300 เหรียญตลอดช่วงเดือนพ.ย. ซึ่งถือเป็นระดับการเคลื่อนไหวในกรอบที่แคบที่สุดในรอบ 12 ปี
• ราคาซิลเวอร์ร่วงลงปิด -0.6% ที่ระดับ 16.33 เหรียญ หลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 8 ส.ค. บริเวณ 16.22 เหรียญ โดยภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลง 3.8% ขณะที่ราคาพลาเดียมปิด +1.5% ที่ระดับ 1,021.6 เหรียญ โดยภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้น 2.4% และราคาแพลทินัมปิด -0.3% ที่ระดับ 938.4 เหรียญ ตลอดสัปดาห์อ่อนค่าลงบริเวณ 0.2%