• ดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนวันศุกร์ ปิด -0.17% บริเวณ 24,231.59 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ปิด -0.20% บริเวณ 2,642.22 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิด -0.38% ที่ระดับ 6,847.59 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเคลื่อนไหวผันผวนอย่างมาก โดยดัชนี S&P 500 ปรับลดลงเกือบ 1.6% หลังสำนักข่าว ABC News รายงานข่าวการออกมาสารภาพผิดของนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และยอมรับว่าเขาเคยรับคำสั่งจากนายทรัมป์ ให้ติดต่อกับรัฐบาลรัสเซีย ในช่วงการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 จริง
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวกลับมาได้เกือบทั้งหมด หลังการลงมติร่างนโยบายปฏิรูปภาษีของ ส.ว.พรรครีพับลิกัน สามารถครองเสียงสนับสนุนได้เพียงพอที่จะนำเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดซื้อขายด้วยความระมัดระวังหลังจากที่หุ้นสหรัฐฯปิดอ่อนตัวลงไป หลังจากมีรายงานว่าการสืบสวนของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯดูจะมีความเป็นไปได้ที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีส่วนเกี่ยวกันกับรัสเซีย
ดัชนีนิกเกอิเปิด -0.13% ในเช้านี้ ขณะที่ดัชนี Topix เปิดทรงตัว และดัชนี Kospi เปิด +0.41%
• นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.50-32.80 บาท/ดอลลาร์ โดยคงต้องติดตามสัญญาณเกี่ยวกับการผลักดันแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, ดัชนี PMI ภาคบริการ, ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค., ยอดสั่งซื้อของโรงงาน สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนต.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามรายงานดัชนี PMI ของประเทศชั้นนำอื่นๆ ด้วยเช่นกัน