• ราคาทองคำปรับตัวลดลงกว่า 1% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ และการรีบาวน์กลับของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากนักลงทุนที่กลับมาประเมินรายละเอียดของแผนภาษีฉบับยกเครื่อง
• ภาพรวมราคาตลาดโลกปรับตัวลงมาประมาณ 1% แถวระดับ 1,263.02 เหรียญ หลังจากที่ร่วงลงมาทำระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ระดับ 1,260.71 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ปิดปรับตัวลง 12.8 เหรียญ หรือคิดเป็น -1% ที่ระดับ 1,264.9 เหรียญ
• กองทุน SPDR ทำการขายทองคำ 1.46 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ะรดับ 845.47 ตัน
• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องวันที่ 2 จากการรีบาวน์ของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ประกอบกับอานิสงส์เชิงบวกจากแผนภาษี หลังจากที่ทางส.ส. สหรัฐฯ ได้ลงมติเพื่อประชุมกับทางส.ว.สหรัฐฯ เพื่อหาความต่างของแผนภาษีที่แต่ละฝ่ายให้การสนับสนุน เพื่อกำหนดร่างกฎหมายบังคับใช้อย่างเป็นทางการ
• นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก RJO Futures กล่าวว่า ราคาทองคำมีการปิดสถานะเพิ่มมากขึ้นจนกว่าจะมีภาวะความเสี่ยงทางการเมืองหรือความไม่แน่นอนระดับโลกเพิ่มขึ้น ซึ่งราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,250 เหรียญ
• การแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ถือเป็นปัจจัยหลักที่เข้ากดดันราคาทองคำอยู่ในขณะนี้ ขณะที่นักลงทุนรอคอยรายงาน Non-Farm Payrolls ในสัปดาห์หน้านี้ ก่อนที่เฟดจะเข้าสู่การประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า ซึ่งผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ของรอยเตอร์ส ชี้ว่า เฟดค่อนข้างแน่ชัดที่จะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวาระนี้
• นักวิเคราะห์จาก BAML ประเมินว่า ราคาทองคำในปีหน้าอาจปรับตัวขึ้นได้อย่างยากลำบาก ท่ามกลางกระแสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วทุกมุมมโลก พร้อมคาดการณ์ว่า ราคาทองคำเฉลี่ยปีหน้าจะอยู่ที่ระดับ 1,326 เหรียญ โดยปรับขึ้นจากระดับปัจจุบันได้ประมาณ 5% ขณะที่ราคาซิลเวอร์เฉลี่ยในปีหน้าจะอยู่ที่ 17.41 เหรียญ โดยปรับขึ้นจากระดับปัจจุบันได้ประมาณ 8%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังควรระมัดระวังการลงทุนในทองคำจากโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่จะเป็นปัจจัยที่หนุนการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อก็อาจจะรีบาวน์ได้ แต่การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันทองคำ ดังนั้นเราจึงมีโอกาสเห็นทองคำปรับตัวขึ้นได้อย่างจำกัดในปีหน้า และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะขยายตัวได้ 2.4% ในปีหน้าจากระดับ 2.2% ในปีนี้ ขณะที่อัตราว่างงานมีโอกาสปรับตัวลงมาที่ระดับ 3% ขณะที่เงินเฟ้อจะขยายตัวได้ 1.8% ในช่วงสิ้นปีหน้า ก่อนจะแตะระดับเป้าหมาย 2% ที่เฟดกำหนดในปี 2019
อย่างไรก็ดี BAML คาดการณ์ว่าเฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้จำนวน 3 ครั้งในปีหน้าตามคาดการณ์ของเฟด ขณะที่รายงานจาก CME Group ชี้ว่ามีโอกาส 50% ที่จะเห็ฯเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เพียง 2 ครั้งในช่วงประมาณพ.ย. ปีหน้า
• ราคาซิลเวอร์ปิดลดลง 1.7% ที่ระดับ 16.04 เหรียญ หลังจากที่ร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนครึ่งบริเวณ 16 เหรียญ
• ทางด้านราคาแพลทินัมปิด -1% ที่ระดับ 914 เหรียญ หลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 30 ต.ค. บริเวณ 909.5 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด -0.8% ที่ระดับ 984.6 เหรียญ หลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งบริเวณ 979.6 เหรียญ