· ดัชนีดอลลาร์ระหว่างวันปรับอ่อนค่าลงเล็กน้อยสู่ระดับ 93.297 จุด เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่อาจเกิดภาวะ Government Shutdownของรัฐบาลสหรัฐฯ แต่ยังคงมีแรงหนุนจากความคืบหน้าของร่างนโยบายปฏิรูปภาษี
ค่าเงินยูโรทรงตัวที่ระดับ 1.1828 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินดอลลารืเมื่อเทียบกับเงินเยน อ่อนค่าลง 0.1% บริเวณ 112.38 เยน/ดอลลาร์
· นายโทนี่ แฟรตโต ผู้ร่วมตั้งก่อตั้ง Hamilton Place Strategies และอดีตเลขานุการประจำตัวอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดิบเบลยู บุช กล่าวว่า ร่างนโยบายปฏิรูปภาษีมีแนวโน้มจะสามารถประสบความสำเร็จได้ทันก่อนช่วงคริสมาสต์ แต่นโยบายภาษีจะสามารถหนุนคะแนนความนิยมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อนถึงการเลือกตั้งกลางวาระในปี 2018 ได้หรือไม่นั้น ยังต้องจับตาต่อไป
· อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสที่ 3/2017 ถูกคาดการณ์ว่าจะออกมาขยายตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 1.5% มากกว่าคาดการณ์เดิมที่ระดับ 1.4% ท่ามกลางแรงหนุนนจากปริมาณการลงทุนในประเทศที่สูงขึ้น รวมถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจด้านการส่งออก
· รายงานจาก Nikkei ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะให้การสนับสนุนด้านการเงินสำหรับโครงการถนนสายไหมของรัฐบาลจีน เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างญี่ปุ่นและจีน
· ตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนที่เป็นของเดือนพฤศจิกายน ที่จะเปิดเผยออกมาในสัปดาห์หน้านี้ ถูกคาดการณ์ว่าจะออกมาอ่อนแอลงเนื่องจากเศรษฐกิจจีนกำลังถูกกดดันจากมาตรการควบคุมมลพิษจากโรงงานของรัฐบาลจีน และปัจจัยความเสี่ยงทางการเงิน
โดยอัตราการผลิตของภาคโรงงานเฉลี่ยรายปี ถูกคาดว่าจะชะลอตัวลงในเดือนพฤศจิกายนสู่ระดับ 6% เทียบกับระดับ 6.2% ในเดือนตุลาคม
ยอดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในตลาดจีนของเดือนพฤศจิกายน ถูกคาดว่าจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 7.2% เทียบกับระดับ 7.3% เมื่อเดือนตุลาคม
ขณะที่ยอดค้าปลีกของจีน ถูกคาดการณ์ว่าจะออกมาขยายตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 10.2% ในเดือนพฤศจิกายน เทียบกับระดับ 10% ของเดือนตุลาคม โดยได้รับแรงหนุนจากการซื้อขายภายใต้โปรโมชั่น Singles’ Day ของ Alibaba
· สำนักข่าว Xinhua รายงานว่า นายมุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จะเดินทางไปเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการในวันที่ 13-16 ธันวาคมนี้ แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมของการเดินทางครั้งนี้แต่อย่างใด
· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง จากรายงานที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น จึงส่งสัญญาณเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันดิบที่ลดลง
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง 6 เซนต์ ที่ระดับ 62.80 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 22 เซนต์ ที่ระดับ 57.50 เหรียญ/บาร์เรล