• ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวผสมผสาน เนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปผลกระทบจากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามว่ากรุงเยรูซาเล็มว่าเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ทรงตัว ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก
• ตลาดหุ้นเอเชียทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันและทองแดงที่อ่อนตัวลงและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของสหรัฐฯทำให้นักลงทุนจำนวนมากชะลอการลงทุน แม้ว่าหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวสูงขึ้นหลังจากเผชิญแรงเทขาย
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ปรับตัวลดลง 4.7% จากระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากนักลงทุนเทขายทำกำไรจนทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 8 เดือนครึ่ง
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด+1.45% ที่ระดับ 22,498.03 จุด หลังจากที่ร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากดัชนีทะลุผ่านแนวรับสำคัญทางเทคนิคจากเส้นค่าเฉลี่ยราย 25 วัน
• ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนเทขายทำกำไรจากดัชนีกลุ่มบลูชิพที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปิด -0.67% ที่ระดับ3,272.01 จุด
· ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวสูงขึ้น หลังหุ้นรายใหญ่อย่าง Tencent ฟื้นตัวขึ้นมา 3.3% โดยดัชนี Hang Seng ปรับตัวสูงขึ้น 0.28% ที่ระดับ 28,303.19 จุด