• ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 143.08 จุด หรือคิดเป็น +0.58% ที่ระดับ 24,651.74 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.90% ที่ระดับ 2,675.81 จุด และดัชนีNasdaq ปิด +1.17% ที่ระดับ 6,936.58 จุด
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P500 ยังคงปิดทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มของแผนภาษีที่รอมาอย่างยาวนานมากขึ้น ที่ดูมีแนวโน้มจะได้รับเสียงสนับสนุนจากบรรดาสมาชิกเพียงพอในสัปดาห์นี้
• ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากกลุ่มนักลงทุนที่มีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับแผนปฏิรูปภาษีสหรัฐฯที่น่าจะผ่านร่างได้ โดยดัชนีนิกเกอิเปิด +1.15% จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นกลุ่ม Blue-chips ในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มโตโยต้าเปิด +2.37% ขณะที่ Sony เปิด +2.22% ขณะที่หุ้น Soft Bankเปิด +1.14%
• นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทไว้ที่ระหว่าง 32.40-32.60 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจภายในประเทศ คือผลการประชุมกนง. และมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2561 ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. ยอดขายบ้านใหม่/บ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน การเริ่มสร้างบ้าน/การอนุญาตก่อสร้าง ข้อมูลรายได้/การใช้จ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก Core PCE Price Index เดือนพ.ย. ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. และตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 3/60 นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามความคืบหน้าของแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ และการประชุมนโยบายการเงินของบีโอเจด้วยเช่นกัน