MTS Help Center

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง หลังจากพรรครีพับลิกันก้าวผ่านอุปสรรคสุดท้าย และครอบครองชัยชนะในการลงมติร่างนโยบายปฏิรูปภาษีเมื่อคืนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ปรับลง 0.2% ท่ามกางตลาดส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนลบ

· ตลาดหุ้นเอเชียค่อนข้างทรงตัว แม้จะตอบรับกับข่าวการผ่านร่างนโยบายภาษีของสหรัฐฯแล้วก็ตาม เนื่องจากตลาดได้ตอบรับกับแนวโน้มความสำเร็จในช่วงก่อนหน้ามาแล้ว รวมถึงยังคงมีแรงกดดันจากแรงกดดันจากภาวะหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐฯที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากการใช้กฏหมายภีดังกล่าว ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดญี่ปุ่น ปรับตัวลดลง 0.06% ท่ามกลางการวื้อขายที่เบาบาง

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง โดยถูกกดดันจากหุ้นภาคธนาคารที่อ่อนจากระดับต่ำสุดที่ผ่านมา ซึ่งหุ้นกลุ่มธนาคารลดลง 1.1% ขณะที่ Mizuho Financial ลดลง 1.2% และ Sumitomo Mitsui Financial Group ลดลง 1.25% ท่ามกลางการคงนโยบายของบีโอเจตามที่คาด ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อตลาด

ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด-0.11% ที่ระดับ 22,866.10 จุด

· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางเหล่านักลงทุนได้รับแรงหนุนจากความมุ่งมั่นในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจจีนในปีหน้าพร้อมกับการปฏิรูปโครงสร้างและการควบคุมความเสี่ยงทางการเงิน

ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปิด+0.4% ท่ะรดับ 3,300.68 จุด

· ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางแรงหนุนจากตลาดหุ้นจีน หลังรัฐบาลจีนออกมายืนยันว่าจะเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างตลาดและพัฒนาระบบป้องกันความเสี่ยงในระบบการเงินและรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งในปี 2018 โดยดัชนี Hang Seng ปรับตัวสูงขึ้น 0.48% บริเวณ 29,367.06 จุด

· นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เผย การส่งออกของไทยเดือน พ.ย.60 ขยายตัวได้ 13.36% ส่งผลให้การส่งออกในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ย.) ขยายตัวได้แล้ว10.1% พร้อมมั่นใจว่าทั้งปีนี้มูลค่าการส่งออกจะสามารถขยายตัวได้เกินกว่า 10% อย่างแน่นอน

อนึ่ง วันนี้ (21 พ.ย.) กระทรวงพาณิชย์ จะมีการแถลงรายละเอียดภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนพ.ย.60 และในรอบ 11 เดือน