• ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.1% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ บริเวณ 93.188 จุด ท่ามกลางการเคลื่อนไหวที่เบาในตลาดส่วนใหญ่ ขณะที่ค่าเงินดอลลารืแคนาดาปรับแข็งค่าขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับศูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ในช่วงสัปดาห์นี้
ด้านค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.2% บริเวณ 1.1876 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่บริเวณ 113.19 เยน/ดอลลาร์
• TenX ชี้ ราคา Bitcoin ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นต่อถึงระดับ 60,000 เหรียญได้ แต่ก็อาจจะมีโอกาสได้เห็นราคาปรับลงมาบริเวณ 5,000 เหรียญเสียก่อน จึงจะเกิดแรงเข้าซื้อกลับเข้ามาในตลาด
ทั้งนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญรวมถึงรัฐบาลของหลายๆประเทศ ได้ออกมาเตือนให้ระมัดระวังภาวะฟองสบู่ของ Bitcoin ที่อาจจะแตกได้ทุกเมื่อ เนื่องจากไม่มีปัจจัยจะสนับสนุนมูลค่าของมัน
• ยอดขาดดุลการค้าภาคบริการของจีนขยายตัวสู่ระดับ 18.3 พันล้านเหรียญในเดือนพฤศจิกายน จากระดับ 17.8 พันล้านเหรียญในเดือนตุลาคม เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีความสนใจต่อภาคการบริการในประเทศลดน้อยลงเมื่อเทียบกับชาวจีน โดยค่าใช้จ่ายในภาคบริการระหว่างชาวจีนและชาวต่างชาติมีระยะห่างกันถึง 14.9 พันล้านเหรียญ
ทั้งนี้ ยอดขาดดุลการค้ารวมระหว่างเดือน มกราคม-พฤศจิกายน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 234.8 พันล้านเหรียญ เทียบกับยอดรวมระหว่างเดือน มกราคม-ตุลาคม ที่ระดับ 216.5 พันล้านเหรียญ
• รายงานจาก Reuters ระบุว่า กลุ่มติดอาวุธไม่ทราบสังกัดได้ทำการระเบิดท่อส่งน้ำมันในประเทศลิเบียที่เชื่อมต่อกับท่าเรือ Es Sider จึงส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตน้ำมันในกลุ่มประเทศแอฟริกาเหนือเป็นจำนวนกว่า 90,000 บาร์เรล/วัน
• ราคาน้ำมันยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ท่ามกลางมุมมองต่อตลาดน้ำมันในปี 2018 ที่ค่อนข้างหนาแน่น ขณะที่ท่อส่งน้ำมันบริเวณทะเลเหนือเริ่มทยอยกลับมาใช้งานได้ยังเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันอยู่
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ทรงตัวบริเวณ 59.87 เหรียญ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ทรงตัวบริเวณ 66.80 เหรียญ