· ราคาทองคำระหว่างวันปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ขึ้นมาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,296.60 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสุงสุดในรอบ 1 เดือน ท่ามกลางแรงหนุนหลักจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ และการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางการเมือง โดยราคาทองคำมีแนวโน้มปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยผลประกอบการที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010
ด้านราคาสัญญาทองคำทรงตัวที่บริเวณ 1,297.80 เหรียญ
ราคาทองคำในภาพรวมรายสัปดาห์นี้สามารถปรับตัวสูงขึ้นมาได้ 1.5% สำหรับในภาพรวมรายปี ราคาปรับขึ้นมาได้ 12%
· ดัชนีดอลลาร์ภาพรวมรายปี ปรับอ่อนค่าลง 9% ซึ่งเป็นผลประกอบการที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2003 ซึ่งการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ได้ช่วยหนุนให้ราคาทองคำสามารถฟื้นตัวจากบริเวณ 1,232.95 เหรียญ เมื่อช่วงกลางเดือน ธ.ค. นี้
· นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะได้รับแรงหนุนจากนโยบายปฏิรูปภาษี ซึ่งค่าเงินดอลลาร์สามารถทำระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี เมื่อช่วงต้นปี 2017 หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้ารับตำแหน่ง แต่ค่าเงินดอลลารืกลับอ่อนค่าลงจากความกังวลว่านายทรัมป์จะไม่สามารถดำเนินนโยบายการเงินได้ตามสัญญา
· นักวิเคราะห์จาก INTL FCStone จากการที่ดอลลารือ่อนค่าลงหลังจากที่นโยบายภาษีสามารถผ่านการลงมติมาได้ แสดงให้เห็นว่าบรรดานักลงทุนมองว่านโยบายดังกล่าวจะเป็นการกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจเสียมากกว่า ขณะที่คาดการรืว่าราคาทองคำจะมีแนวต้านที่ระดับ 1,300 – 1,320 เหรียญ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ และยังอาจได้รับแรงหนุนเพิ่มจากความตึงเครียดทางการเมืองอีกด้วย
· ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้นอีก 0.1% บริเวณ 1,066.74 เหรียญ ซึ่งพลาเดียมเป็นสินค้าในกลุ่มโลหะล้ำค่าที่มีผลประกอบการแข็งแกร่งที่สุดในปี 2017 โดยภาพรวมรายปีสามารถปรับขึ้นมาได้ถึง 57% ท่ามกลางปริมาณการผลิตพลาเดียมที่ต่ำ
· ราคาซิลเวอร์ทรงตัวที่บริเวณ 16.85 เหรียญ หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดได้ที่ระดับ 16.88 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินั่มทรงตัวที่บริเวณ 922.99 เหรียญ หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดได้ที่ระดับ 927.50 เหรียญ