• ราคาทองคำปิดตลาดขาขึ้นได้สำเร็จในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา โดยปิดปรับขึ้นเหนือ 1,300 เหรียญได้ ขณะที่ภาพรวมตลอดเดือนธ.ค. ราคาทองคำปรับขึ้นได้ 1.64% ส่งผลให้ภาพรวมของปีที่ผ่านมาทองคำปรับตัวขึ้นได้ 12.67% ซึ่งถือเป็นปีที่มี Performance ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2010 ทางด้านสัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ปิดตลาดส่งท้ายปีที่ระดับ 1,309 เหรียญ หรือคิดเป็น +0.91% แม้ว่าปริมาณการซื้อขายจะเบาบาง แต่ภาพทางเทคนิคของทองคำและซิลเวอร์ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง
• นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า ทองคำสามารถยืนเหนือ 1,300 เหรียญได้ซึ่งเป็นระดับราคาเป้าหมายและระดับสำคัญทางจิตวิทยาได้ในช่วงปีใหม่นี้ จึงมีแนวโน้มว่าทองคำจะยังทรงตัวได้เหนือระดับเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วัน และมีโอกาสจะไปเหนือ 1,300 เหรียญได้อีกระยะ ซึ่งทองคำยังคงมีแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่อ่อนตัว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ไม่เคลื่อนไหวมากนักหลังจากที่เฟดขึ้นดอกเบี้ยประกอบกับการรับรู้ข่าวแผนภาษีไปแล้ว
• สำหรับเมื่อคืนนี้ทองคำยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อต้อนรับปีใหม่นี้ โดยไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.ย. บริเวณ 1,315.46 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ปิดปรับขึ้นอีก 6.8 เหรียญ หรือคิดเป็น +0.52% ที่ระดับ 1,316.10 เหรียญ และเช้านี้ทองคำยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อไปทดสอบแถวระดับ 1,320 เหรียญจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่ราคาพลาเดียมทำระดับสูงสุดเป็นระวัติการณ์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาวะอุปทานหลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นกว่า 57% ในปีที่ผ่านมา
• ภาพรวมกองทุนทองคำ SPDR จบเดือนธ.ค.ปีที่ผ่านมาด้วยการขายออกตลอดทั้งเดือนเพียง 2.05 ตัน ซึ่งถือเป็นระดับการขายออกน้อยทีสุดในรอบปี ที่ระดับ 837.5 ตัน ขณะที่ภาพรวมตลอดปี 2017 มีสถานะการเข้าซื้อสุทธิ 15.33 ตัน
อย่างไรก็ดี ในวันทำการแรกของปี 2018 เมื่อวานนี้กองทุน SPDR ขายทองคำออก 1.18 ตัน ปัจจุบันเหลือการถือครองทองคำที่ระดับ 836.32 ตัน
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Kitco คาดว่าทองคำจะมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,300 เหรียญ และ 1,315 เหรียญ ขณะที่แนวต้านจะอยู่บริเวณ 1,335 เหรียญ และ 1,362 เหรียญ
• นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโสจาก US Bank Wealth Management กล่าวว่า ราคาทองคำได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ โดยแผนภาษีของสหรัฐฯฉบับยกเครื่องดูจะเป็นตัวเปลี่ยนแปลงแนวโน้มตลาดให้กลับมาสดใส เนื่องจากมีโอกาสจะทำให้สหรัฐฯเผชิญกับภาวะขาดดุลจำนวนมาก
• ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนเตือนให้ระวังการปรับตัวขึ้นของทองคำที่ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยนักวิเคราะห์จาก Mitsubishi แนะนำให้จับตาปัจจัยสำคัญในปีนี้ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนทิศทางทองคำ ได้แก่ แนวทางการปรับนโยบายดอกเบี้ยให้เข้าสู่ภาวะปกติของธนาคารกลางต่างๆว่าจะรวดเร็วมากน้อยเพียงใด รวมทั้งทิศทางการฟื้นตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก และผลระยะยาวของแผนปฏิรูปภาษี รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ
• ราคาพลาเดียมปิด +3.12% ที่ระดับ 1,094.1 เหรียญเมื่อคืนนี้ โดยราคาขึ้นไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. ปี 2001 ที่ระดับ 1,096.5 เหรียญ โดยราคายังคงแกว่งตัวตามอุปสงค์ ขณะที่อุปทานมีความตึงตัว
• ซิลเวอร์ปิด +1.4% ที่ระดับ 17.184 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด +1.7% ที่ระดับ 941.5 เหรียญ