· ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 102.8 จุด หรือคิดเป็น +0.41% ที่ระดับ 25,385.8 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.13% ที่ระดับ 2,751.29 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.09% ที่ระดับ 7,163.58 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงปีใหม่ โดยยังคงปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้เมื่อคืนนี้ โดยกลุ่มนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับรายงานผลประกอบการรายไตรมาส และความคาดหวังที่ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในเกาหลีเหนือจะบรรเทาลงไป หลังจากที่เมื่อวานนี้การพบกันของผู้แทนเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือเกี่ยวกับการจัดกีฬาโอลิมปิกเป็นไปด้วยดี โดยเป็นการเจรจาร่วมกันเป็นครั้งแรกของ 2 ชาติในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่สหรัฐฯมองว่า ก้าวแรกที่ดีจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาวิกฤตอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้ แม้ว่าทางเกาหลีเหนือจะยืนกรานว่าจะไม่ทำการหารือเรื่องอาวุธใดๆที่มีการกำหนดเป้าหมายไปยังสหรัฐฯ
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดทรงตัว ท่ามกลางมูลค่าตราสารหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงตลาดหุ้นสหรับฯที่ปิดในแดนบวก โดยนักลงทุนในตลาดเอเชียกำลังเฝ้ารอการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจด้านเงินเฟ้อของจีนในช่วงเช้าวันนี้
· ดัชนี Nikkei เปิดทรงตัว แม้หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนตร์และการเงินจะมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แต่ก็ถูกกดดันโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้น Sony และ SoftBank ที่ปรับลดลงไป 0.12% และ 0.8% ตามลำดับ
· นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.30 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่เมื่อวานนี้เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ รอปัจจัยใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้แข็งค่าลงมามาก เนื่องจากมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตร
· หัวหน้า คสช.ประกาศในที่ประชุม ครม.-คสช.จะยกเลิกคำสั่ง คสช.ทั้งหมดหลังเสร็จสิ้นภารกิจตามโรดแมป พร้อมเห็นชอบการเพิ่มด่านตรวจยาเสพติดตามพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะบนถนนสายรอง
อย่างไรก็ดี ที่ประชุมครม. ได้อนุมัติโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อผู้มีรายได้น้อยในระยะที่ 2 วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท โดยโครงการนี้ต่อเนื่องมาจากระยะที่ 1 ที่รัฐบาลช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในการซื้อสินค้า แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าให้เป็นเงินสดจะดีกว่า