· ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป รวมทั้งการฟื้นตัวของตลาดหุ้นที่เป็นปัจจัยเข้ากดดันราคาทองคำ
· ราคาทอง่คำปรับตัวลงมา 0.6% แถวระดับ 1,312.58 เหรีญญ หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วทำระดับสูงสุดบริเวณ 1,325.86 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 15 ก.ย.ปีที่ผ่านมา ทางด้านสัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ปิดปรับลง 6.7 เหรียญ หรือคิดเป็น -0.5%ที่ระดับ 1,313.7 เหรียญ
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ขายทองคำออก 2.95 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 831.91 ตัน
· ราคาพลาเดียมทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยยังได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์ของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยสัญญาพลาเดียมปิด +0.1% ที่ระดับ 1,101.55 เหรียญ หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์บริเวณ 1,111.4 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จากมิทซูบิชิ กล่าวว่า การดีดกลับของค่าเงินดอลลาร์มาจากการอ่อนค่าของค่าเงินยูโร ซึ่งค่าเงินยูโรกำลังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งของอิตาลีที่จะมาถึง, ปัญหาการจัดตั้งพรรคการเมืองเยอรมนี และความกังวลกรณี Brexit ขณะที่ตลาดหุ้นโดยส่วนใหญ่ยังคงมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเหตุทั้งหมดนี้จึงเป็นปัจจัยที่เข้ากดดันราคาทองคำให้อ่อนตัว
· เหล่าเทรดเดอร์ มองว่า การปรับตัวลงของทองคำมาจากแรงเทขายทำกำไรหลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นไปเมื่อไม่นานมานี้
· รายงานจากสภาทองคำโลก (World Gold Council) เผยว่า กองทุนทองคำทั่วโลกมีการเพิ่มการถือครองทองคำในปี 2017 เป็นจำนวนรวม 197.5 ตัน หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 8.4%
· ทีมนักวิเคราะห์จาก Commerzbank ระบุว่า ราคาทองคำยังมีแรงหนุนจากกระแสเงินที่ไหลเข้าในกองทุน ETFs ของทองคำ ซึ่งเป็นเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นปีนี้ที่รวมเป็นมูลค่าเกือบ 6 ตัน
· เทรดเดอร์จาก Global Investors กล่าวว่า ทองคำอาจปรับตัวลงต่อได้อีกในเร็วๆนี้อีก โดยหากทองคำหลุดต่ำกว่าระดับ 1,240 เหรียญ ก็จะเห็นการทำ Sell Stops เป็นจำนวนมาก และก็จะส่งผลให้แนวโน้มของทองคำเริ่มเปลี่ยนทิศทาง
· สัญญาซิลเวอร์ปิด -0.93% ที่ระดับ 16.98 เหรียญ ขณะที่สัญญาแพลทินัมปิด -0.9% ที่ระดับ 963.74 เหรียญ หลังจากที่เมื่อวันจันทร์ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่งบริเวณ 973.6 เหรียญ