• ตลาดหุ้นยุโรปเปิดบวก โดยดัชนี Stoxx 600 เปิด +0.12% ท่ามกลางหุ้นภาคต่างๆที่เคลื่อนไหวในแดนบวก หลังตลาดรับข้อมูลการรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ
• ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นอีกครั้งในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากทิศทางผลประกอบการเชิงบวก ประกอบกกับการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ และสัญญาณการจะยุตินโยบายผ่อนคลายทางการเงินของอีซีบี
ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นได้ 0.6% หลังจากที่ร่วงลงไปติดต่อกัน 2 วันทำการ ขณะที่ดันีนิกเกอิปรับตัวร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยปรับตัวลดลง 0.2% และทำให้ภาพรวมสัปดาห์นี้ของดัชนีนิกเกอิปิด -0.3%
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดลบ ท่ามกลางความอ่อนแอของหุ้นกลุ่มผู้ส่งออก แม้จะมีแรงหนุนจากหุ้น Fast Retailing รายใหญ่ที่มีผลประกอบการแข็งแกร่งหลังการประกาศผลกำไรรายไตรมาสก็ตาม โดยดัชนี Nikkei ปิด -0.2% บริเวณ 23,653.82 จุด ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยราย 5 วันที่ระดับ 23,743.39 จุด สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ดัชนีปรับตัวลดลงไป 0.3%
• ตลาดหุ้นจีนปิดบวก โดยดัชนี Shanghai Composite ปิด+0.12% บริเวณ 3,429.32 จุด ติดต่อกัน 11 วันทำการ ท่ามกลางความแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและการเงิน แม้ตัวเลขดุลการค้าจีนจะประกาศออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดไว้ก็ตาม
• นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พร้อมรับทราบภารกิจการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าของ รฟม. ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 5 โครงการ ซึ่งมีความคืบหน้าในการก่อสร้าง (ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560)
• ธปท. รับบาทแข็งจากดุลบัญชีเดินสะพัดสูง ย้ำชัดพร้อมเข้าดูแลหากเงินบาทข็งค่าเร็ว ไม่สอดคล้องกับภูมิภาค ไม่ได้หวัวให้ได้เปรียบคู่พร้อม ขณะเดียวกันแนะเอกชนใช้โอกาสช่วงเงินบาทแข็งค่า เร่งนำเข้าสินค้า เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มความสามารถการแข่งขัน
• นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เปิดเผยภายหลังหารือกับ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทในช่วงนี้ที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วว่า ในการหารือวันนี้ สรท. พอใจ และเข้าใจกับสถานการณ์มากขึ้น แม้ว่าค่าเงินบาทในขณะนี้จะแข็งค่าหลุดระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐก็ตาม โดยหลังจากนี้ไปผู้ประกอบการจะต้องปรับตัว รับกับสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าให้ได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการจะต้องเริ่มทำความเข้าใจและดำเนินการบริหารความเสี่ยงจากค่าเงินบาทมากขึ้นด้วย เนื่องจากปัจจุบันยังพบว่า ผู้ประกอบการทำประกันความเสี่ยงเพียง 200 ราย จากผู้อบรบการทำประกันความเสี่ยง