· เมื่อคืนนี้ราคาทองคำปิดทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ หลังจากที่ดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าอีกครั้งเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยราคาทองคำตลาดโลกทรงตัวบริเวณ 1,339.44 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ปิดปรับขึ้น 2.1 เหรียญ หรือคิดเป็น +0.2% ที่ระดับ 1,339.2 เหรียญ
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 828.96 ตัน
· ขณะที่รายงานจาก Kitco ระบุว่า ภาพรวมราคาทองคำยังอยู่ในแดนบวกหลังจากที่มีประมาณการซื้อขายที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ 2 – 3 เหรียญ/วัน ขณะที่การกลับมาแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์อาจเป็นปัจจัยที่เข้ามากดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง และจะเห็นได้ว่าเหล่าเทรดเดอร์เริ่มกลับมาขายทองคำในตลาดอีกครั้ง จนลงไปทำระดับต่ำสุดแถว 1,326 เหรียญ หลังจากรายงาน Beige Book ของเฟด ระบุว่า สภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯและเงินเฟ้อขยายตัวได้ในระดับปานกลางจากช่วงปลายเดือนพ.ย. จนถึงสิ้นปี 2017 ขณะที่อัตราค่าแรงมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
· นอกจากนี้ ราคาทองคำยังถูกกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดเหนือ 26,000 จุดได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการเก็บสถิติมา
· อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่า ในช่วงเวลาประมาณบ่าย 3 ของสหรัฐฯ หรือตี 3 ตามเวลาไทย ราคา Gold Futures ต่างประเทศร่วงลงอย่างรวดเร็วเกือบ 10 เหรียญ กลับลงมาเคลื่อนไหว 1,327.3 เหรียญ ขณะเดียวกันแรงขายดังกล่าวนอกจากจะมาจากปัจจัยกดดันแล้วยังมาจากแรงขายทำกำไรด้วย
· นักวิเคราะห์จาก Kitco วิเคราะห์ว่า ราคาทองคำกลับลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,326.7 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ยFibonacci Retracement 23.5% อันถือเป็นแนวรับแรกของราคาทองคำ ซึ่งหากลุดต่ำลงมาทองคำจะมีระดับแนวรับถัดไปบริเวณเส้น Fibonacci 38.2% ที่ระดับ 1,303.8 เหรียญ ขณะที่ทิศทางโดยภาพรวมของตลาดความเชื่อมั่นยังเป็นทิศทางขาขึ้น
· นักวิเคราะห์จาก Mitsubishi กล่าวว่า ราคาทองคำยังมีโอกาสกลับทดสอบระดับสูงสุดเดิมเมื่อปีที่แล้วบริเวณ 1,357 เหรียญ หากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตล้มเหลวในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณในวันศุกร์นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐฯจะเผชิญกับภาวะ Shutdown แม้ว่าทางทำเนียบขาวอาจบรรลุร่างกฎหมายระยะสั้นเป็นการชั่วคราวได้
· นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered ระบุว่า ภาพระยะยาวทองคำอาจได้รับแรงหนุนจากความเสี่ยงของตลาดหุ้นทั่วโลกที่ร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจากการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ ขณะที่กองทุนส่วนใหญ่มีมุมองต่อการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเพิ่มขึ้น อันจะเห็นได้จากการเปิดสถานะ Long เพิ่มขึ้นเกือบ 200,000 คู่สัญญาณ จากระดับ 80,000 คู่สัญญาในช่วงกลางเดือนธ.ค. ดังนั้น จึงจะเห็นได้ว่า ในช่วง 3 สัปดาห์จะเห็นได้ถึงการเพิ่มสถานะ Long ในทองคำอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสถานะ Long ที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นตัวช่วยผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้เช่นกัน โดยที่ทองคำจะมีระดับแนวต้านางเทคนิคบริเวณ 1,350 เหรียญ
· ราคาซิลเวอร์ปิด -0.1% ที่ระดับ 17.17 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด +0.7% ที่ระดับ 1,005.6 เหรียญ หลังจากขึ้นไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 8 ก.ย. บริเวณ 1,006.6 เหรียญ ด้านราคาพลาเดียมปิด +2.1% ที่ระดับ 1,116.47 เหรียญ