· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากเหล่าเทรดเดอร์ทำการเข้าซื้อค่าเงินยูโร ค่าเงินเยน ค่าเงินปอนด์ และค่าเงินอื่นๆ จากความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของภาวะ Shutdown สหรัฐฯ ว่าจะเผชิญกับอุปสรรคในการขอร่างงบประมาณสหรัฐฯ
ทั้งนี้ หากสหรัฐฯสามารถผ่านข้อตกลงด้านงบประมาณดังกล่าวได้ ก็จะเป็นเพียงการชั่วคราวเท่านั้นที่มีกำหนดการต้องแล้วเสร็จให้ได้ภายในคืนนี้ ซึ่งร่างงบประมาณชั่วคราวก็อาจจะบั่นทอนค่าเงินดอลลาร์ได้
ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วน แสดงความคิดเห็นว่า ภาวะทางการเมืองนั้นกำลังบั่นทอนสภาวะเศรษฐกิจ และจะทำให้เราเห็นแรงกดดันเพิ่มขึ้นในค่าเงินดอลลาร์หากวันนี้ยังไม่มีข้อตกลงใดๆออกมา
ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลดลง 0.44% ที่ระดับ 90.513 จุด หลังลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีเมื่อวันพุธที่ผ่านมาบริเวณ 90.104 จุด ทางด้านค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.2242 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งยังอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าลงมา 0.23% ที่ระดับ 111.02 เยน/ดอลลาร์
· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวขึ้น หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯออกมาดีขึ้น โดยปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 45 ปี
โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบลสหรัฐฯปรับตัวขึ้นแตะ 2.611% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 30 ปรับตัวขึ้นแตะ 2.887%
ทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้นแตะ 2.06% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ก.ย.ปี 2008
· จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯเมื่อสัปดาห์ที่ผ่าน ปรับลดลงจำนวน 41,000 ราย สู่ระดับ 220,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 45 ปี นับตั้งแต่ปี 1973 และเป็นสัปดาห์ที่มีการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ปี 2009 จึงเป็นสัญญาณว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯจะยังคงความแข็งแกร่งต่อไปได้ในปี 2018 และข้อมูลล่าสุดถือเป็นการปรับตัวลงต่ำกว่า 300,000 รายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 150 จึงบ่งชี้ถึงการจ้างงานที่แข็งแกร่งภายในสหรัฐฯ
· นางลอเร็ตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาเคฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นดอกเบี้ยจำนวน 3 ครั้งในปีนี้และปีหน้า เนื่องจากการขยายตัวในการใช้จ่ายภาคธุรกิจและกลุ่มผู้บริโภคจะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจน่าจะขยายตัวได้ประมาณ 2.5% ในปีนี้ ขณะที่การผ่านร่างภาษีของสหรัฐฯล่าสุดอาจช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวได้เร็วขึ้น รวมทั้งทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้า ท่ามกลางอัตราว่างงานที่ระดับ 4.1% ในปัจจุบันที่อาจปรับตัวลงสู่ 4% ได้ในช่วงสิ้นปีนี้ และเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ก็มีโอกาสที่จะฟื้นตัวกลับได้ภายใน 1 หรือ 2 ปี
อย่างไรก็ดี หากเศรษฐกิจขยายตัวได้จริงก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมต่อการดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้และปีหน้า เช่นเดียวกับการดำเนินการในปีที่แล้ว
· รายงานจาก Reuters ระบุว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันใกล้จะประสบความสำเร็จในการผลักดันร่างงบประมาณระยะสั้น ให้สามารถผ่านการลงมติในสภาคองเกรสที่มีกำหนดเส้นตายในคืนนี้ หลังจากที่เสร็จสิ้นการเจรจาเพื่อปรับปรุงร่างนโยบายภายในพรรค
อย่างไรก็ดี นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สร้างความสับสนให้กับสมาชิกพรรค โดยกล่าวว่า ร่างของบประมาณไม่ควรรวมโปรแกรมประกันสุขภาพสำหรับเด็ก ซึ่งเป็นโครงการของพรรคเดโมแครต แต่ภายหลังทำเนียบขาวได้ออกมาเปิดเผยว่า นายทรัมป์ได้ให้การสนับสนุนโปรแกรมดังกล่าวในร่างของบประมาณแล้ว
· รายงานล่าสุดในเช้านี้ ระบุว่า บรรดา ส.ส. สหรัฐฯมีมติให้ร่างงบประมาณสามารถผ่านได้ ส่งผลให้สหรัฐฯจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะ Shutdown ไปได้ ซึ่งร่างของบประมาณระยะสั้นฉบับนี้ จะขอเงินสนับสนุนให้กับโครงการต่างๆของภาครัฐฯจนถึงวันที่ 16 ก.พ. แต่ร่างของบประมาณฉบับดังกล่าวยังจำเป็นต้องได้รับการลงมติกันภายในสภาวุฒิสมาชิก ซึ่งยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่จะออกมา
· นายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี และนายจอร์เจีย เมโลนี หัวหน้าพรรค Brothers of Italy ร่วมลงนามในสัญญาการดำเนินนโยบายการเมืองร่วมกัน ก่อนหน้าการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 4 มี.ค.นี้ โดยสัญญาว่าจะทำการปรับลดอัตราภาษีและยกเลิกนโยบายปฏิรูประบบเงินบำเน็จบำนาญ
· ราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ท่ามกลางการอ่อนตัวในช่วงต้นตลาด แต่ภาพรวมตลาดก็ยังคงมีแรงหนุนจากการปรับตัวลงเป็นประวัติการณ์ของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯในรัฐคุชชิง และรัฐโอกลาโฮมา ประกอบกับตลาดยังตอบรับกับข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิต แม้ว่าอุปทานน้ำมันในสหรํฐฯจะเพิ่มสูงขึ้น
น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลง 7 เซนต์ ที่ระดับ 69.31 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับลง 2 เซนต์ ที่ระดับ 63.95 เหรียญ/บาร์เรล