• ราคาทองคำทรงตัวแถวระดับ 1331.57 เหรียญ ท่ามกลางการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะ Shutdown ของสหรัฐฯ
• ด้านราคาสัญญาทองคำตลาด COMEX ปรับลดลง 0.1% บริเวณ 1,331.30 เหรียญ
• ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.5% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ที่ระดับ 90.155 จุด
• นักวิเคราะห์ ANZ ระบุว่า อย่างไรก็ดี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาบรรดาวุฒิสมาชิกระดับสูงจากทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตจัดการประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการ Shutdown ของรัฐบาล แต่ยังคงไม่มีความชัดเจนว่า รัฐบาลจะสามารถหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ทัน ก่อนที่จะเริ่มต้นสัปดาห์ในคืนนี้หรือไม่ แต่เทรดเดอร์กังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดต่อเศรษฐกิจ
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters ระบุว่า ราคาทองคำอาจจะกลับมาที่ระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 18 มค. ที่บริเวณ 1,323.70 เหรียญ เมื่อพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของกราฟและเส้น Fibonacci
• ราคาซิลเวอร์ปรับตัวสูงขึ้น 0.1% ที่ระดับ 17.01 เหรียญ
• ราคาแพลตินั่มปรับลดลง 0.1% บริเวณ 1,011.65 เหรียญ หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. ที่ระดับ 1,015.20 เหรียญ ด้านราคาพาลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.1% บริเวณ 1,105.97 เหรียญ ซึ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ระดับ 1,138 เหรียญ
• ราคาทองคำปรับขึ้นและตอบรับกับข่าว Shutdown ของรัฐบาลสหรัฐฯเพียงเล็กน้อยท่ามกลางการเปิดตลาดเอเชียวันนี้ โดยราคาทองคำยังเคลื่อนไหวแถวระดับ 1,334 เหรียญ โดยตลาดดูจะตอบรับกับข่าวล่าสุดที่ว่า ส.ว.พรรครีพับลิกันและเดโมแครตได้หารือกันไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพื่อยุติข้อขัดแย้ง
อย่างไรก็ดี นายมิทช์ แมคคอนเนล กล่าวว่า ในวันนี้ทางวุฒิสภามีกำหนดจะโหวตร่างขยายระยะเวลาทุนจนถึง 8 ก.พ.นี้ เพื่อแก้ปัญหาภาวะ Shutdown ที่เกิดขึ้นในช่วงเที่ยงคืนของคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องของนโยบายอพยพระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ขณะที่ข้อตกลงใหม่ที่ดูจะสร้างความกังวลให้แก่พรรคเดโมแครตน่าจะเกิดขึ้นในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
ทั้งนี้ หากภาวะ Shutdown ของรัฐบาลสหรัฐฯยังคงดำเนินต่อไป ประชาชนชาวอเมริกาก็อาจมีการยุติการบริการที่ไม่จำเป็น ซึ่งข้อมูลภาคบริการก็เป็นหนึ่งในข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ขณะที่พิพิธภัณฑ์, สวนสาธารณะ และอนุสาวรีย์ก็อาจถูกปิดตัวลง รวมทั้งจะมีคนที่ถูกพักงานชั่วคราวที่ไม่ได้รับค่าจ้างอีกด้วย แต่ทางการทหารและสวัสดิการสังคมและบริการด้านไปรษณีย์น่าจะยังคงเปิดให้บริการตามปกติอยู่