• ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทำระดับต่ำสุดใหม่ในรอบ 3 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังจากที่ข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซนปรับตัวขึ้นเกินคาดในเดือนม.ค. จึงบ่งชี้ถึงความแข็งแก่รงทางเศรษฐกิจในยูโรโซน และทำให้ดัชนีดอลลาร์ทำระดับต่ำสุดใหม่บริเวณ 90.063 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ ธ.ค. ปี 2014 ก่อนจะทรงตัวบริเวณ 90.124 จุดในเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนบางส่วน มองว่า ภาวะอ่อนค่าของดอลลาร์ในขณะนี้ ส่วนหนึ่งอาจมาจากการปิดสถานะท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับท่าทีการค้าสหรัฐฯต่อทั่วโลก
• ด้านค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นมาแถว 1.23 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนม.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.3 จุด จากระดับ 0.5 จุด ซึ่งระดับที่เหนือกว่า 0.6 จุดถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ดีต่อตลาด
ผลสำรวจจาก ZEW พบว่าความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีขยายตัวได้เกินคาดแตะระดับ 20.4 จุด จากเดิมที่ระดับ 17.4 จุด และผลสำรวจล่าสุด บ่งชี้ถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจเชิงบวกของเยอรมนีในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2018
• ค่าเงินเยนอยู่ในทิศทางแข็งค่าหลังจากที่บีโอเจตัดสินใจคงนโยบายการเงิน ท่ามกลางความเสี่ยงด้านราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง ขณะที่คาดการณ์เงินเฟ้อขึ้นมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นและมีการเคลื่อนไหวเป็น Sideways ในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นมุมมองที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับมุมมองก่อนหน้าที่มองเงินเฟ้อเชิงลบ โดยค่าเงินเยนปรับแข็งค่าลงมา 0.5% ที่ระดับ 110.25 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่พุธที่แล้ว
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ร่วงลงแตะ 2.628% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ปรับตัวลงแตะ 2.903% หลังจากที่บรราดาผู้นำในสภาคองเกรสบรรลุข้อตกลงฉบับชั่วคราวเพื่อให้รัฐบาลยังสามารถดำเนินงานได้จนถึง 8 ก.พ. นี้
• นักวิเคราะห์ประจำสภาคองเกรส เผย ร่างกฏหมายงบประมาณฉบับชั่วคราวที่ผ่านการลงมติเพื่อยุติภาวะ Shutdown เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา มีแนวโน้มจะเพิ่มปริมาณหนี้สินให้กับสหรัฐฯอีกประมาณ 3.13 หมื่นล้านเหรียญ ในระยะเวลา 10 ปี
• เมื่อวานนี้ มติส่วนใหญ่ของทางส.ว.สหรัฐฯ เห็นชอบให้ นายเจอโรม โพเวลล์ สมาชิกบอร์ดบริหารเฟดเข้ารับตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไป ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเขาจะดำเนินนโยบายการเงินในรูปแบบปัจจุบันต่อไป
• จำนวนการเร่งดำเนินการและการจัดประชุมธุรกิจโดยองค์กรเอกชนกับหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับสูงขึ้นเกือบ 4 เท่าตัวในไตรมาสที่ 4/2017 โดยคิดเป็นเป็นมูลค่ากว่า 17.35 ล้านเหรียญ เทียบกับระดับ 4.53 ล้านเหรียญในไตรมาสที่ 3/2017 เนื่องจากบรรดาธุรกิจมีการติดต่อกับภาครัฐมากขึ้นเพื่อเจรจาต่อรองในร่างนโยบายปฏิรูปภาษีที่สามารถผ่านการลงมติมาได้เมื่อช่วงเทศกาลคริสต์มาสปี 2017
• พรรคเดโมแครตระงับข้อเสนอที่จะช่วยสนันสนุนเงินทุนให้กับโครงการก่อสร้างกำแพงชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่ความขัดแย้งเกี่ยวกับโครงการคุ้มครองเยาวชนที่อพยพเข้าประเทศอย่างผิดกฏหมาย ยังคงมีเสียงแตกแยกกันภายในวุฒิสภาทที่รุนแรงยิ่งขึ้น
• รายงานล่าสุดจากทาง Reuters ระบุว่า การเปิดเจรจา NAFTA ครั้งสำคัญเมื่อวานนี้เป็นไปในทิศทางเชิงบวก โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นว่าการเจรจานั้นเป็นไปค่อนข้างดี ขณะที่ผู้แทนการเจรจาจากแคนาดา แสดงความคาดหวังว่าอาจมีความคืบหน้าเพิ่มมากขึ้น
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นได้เกือบ 1% โดยน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นทดสอบ 70 เหรียญ/บาร์เรลได้อีกครั้งในสัปดาห์นี้ โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากภาวะการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และข้อตกลงการจำกัดการผลิตของกลุ่มโอเปก, รัสเซีย และชาติพันธมิตรที่กำลังดำเนินไป
น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 93 เซนต์ หรือคิดเป็น +1.4% ที่ระดับ 69.96 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ขึ้นไปทำ High บริเวณ 70.37 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 15 ม.ค.
น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 90 เซนต์ หรือคิดเป็น +1.4% ที่ระดับ 64.47 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ธ.ค.ปี 2014 เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมาที่ระดับ 64.89 เหรียญ/บาร์เรล