นักวิเคราะห์จาก GFM Thomson Reuters กล่าวว่า ราคาทองคำเริ่มปีใหม่ด้วยทิศทางที่สดใส และนักลงทุนก็อาจได้เห็นทองคำปรับตัวขึ้นได้ตลอดปีนี้
รายงานผลสำรวจทิศทางทองคำไตรมาสที่ 4/2017 ที่เปิดเผยเมื่อวานนี้ ระบุว่า ราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นไปได้ถึง 1,500 เหรียญในบางช่วงของปี 2018 นี้ และจะมีราคาเฉลี่ยปีนี้ที่ 1,360 เหรียญ โดยทีมนักวิเคราะห์ เชื่อว่า ภาวะตึงเครียดทางการเมืองและสภาวะการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจะเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนทองคำเพื่อเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง พร้อมประเมินว่าเฟดอาจไม่สามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ถึง 3 ครั้ง แต่โอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยอันได้รับอานิสงส์จากแผนปฏิรูปภาษีฉบับใหม่ ก็อาจจำกัดการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำได้
มุมมองของ GFMS มองว่าทองคำปรับตัวขึ้นได้ 1.5% ในปีนี้จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ธ.ค. ปี 2014 หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯกล่าวว่าการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์นั้นดีต่อเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะเป็นปัจจัยที่สร้างผลกระทบครั้งใหญ่ต่อราคาทองคำ เนื่องจากเฟดยังมีแนวโน้มจะคุมเข้มทางการเงินอย่างต่อเนื่องจึงน่าจะเป็นปัจจัยที่เข้ากดดันราคาทองคำได้ แต่การที่เฟดยังคงกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการชะลอตัวของเงินเฟ้อ ก็อาจทำให้เฟดต้องใช้แนวทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพิ่มมากขึ้น และประเด็นนี้อาจเป็นผลดีต่อราคาทองคำได้ ในทางกลับกันหากภาพรวมเหมาะสมในการคุมเข้มทางการเงินก็จะทำให้ราคาทองคำร่วงลงมากขึ้นได้
เมื่อดูภาพรวมปีที่แล้วจะเห็นได้ว่า ปริมาณความต้องการทองคำอยู่ที่ระดับ 3,932 ตัน หรือปรับขึ้น 10.5% จากระดับ 3,557 ตัน ในปี 2016 และในช่วงเวลาเดียวกันภาวะอุปทานของทองคำอยู่ที่ 4,409 ตัน หรือลดลง 3.5% จากระดับ 4,575 ตันในปี 2016
ที่มา: Kitco