• ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.2% บริเวณ 89.215 จุด จากระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ 88.429 จุด โดยได้รับแรงหนุนเล็กน้อยจากตัวเลข GDP สหรัฐฯที่ประกาศออกมาแข็งแกร่ง แต่ยังคงมีแรงกดดันจาท่ามกลางความสับสนเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของรัฐบาลสหรัฐฯ
ด้านค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยนปรับอ่อนค่าลง 0.1% บริเวณ 108.72 เยน/ดอลลาร์ หลังจากลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 108.28 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่ผ่านมา
ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าลง 0.25 บริเวณ 1.2400 ดอลลาร์/ยูโร หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 1.2538 ดอลลาร์/ยูโร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
• รัฐบาลจีนคาดการณ์ว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 6.5-6.8% ในปีนี้ พร้อมเตือนให้บรรดาผู้ประกอบการภายในประเทศระมัดระวังปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจที่คาดไม่ถึง รวมถึงให้ระมัดระวังปัจจัยที่ตลาดมองข้ามไป
• รัฐบาลอินเดีย คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศในปีงบประมาณนี้ ไว้ที่ระดับ 7-7.5% สูงกว่าคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนมี.ค.ปี 2018 ที่ 6.5% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 4 ปี
• เกิดเหตุการณ์ประท้วงขึ้นในประเทสรัสเซีย โดยฝ่ายต่อต้านรัฐบาลนำโดยนาย Alexei Navalny ที่ไม่พึงพอใจในการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 18 มี.ค. นี้ ซึ่งฝ่ายต่อต้านได้กล่าวหาว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกกำหนดผลลัพณ์เอาไว้ให้เป็นชัยชนะของนายวลาดิเมียร์ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียคนปัจจุบัน
• บรรดาเจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้สร้างความสับสนกับตลาดค่าเงินดอลลาร์เอาไว้เมื่อสัปดาหืที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ระดับต่ำ ซึ่งนักวิเคราะห์ได้ประเมินว่า ค่าเงินดอลลาร์จะเคลื่อนไหวแบบสะสมพลังไปจนกว่าจะมีสัญญาณความคืบหน้าใดๆจากทีมบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการเจรจาสนธิสัญญาทางการค้า โดยที่ไม่จุดประกายให้เกิสงครามทางการค้าและความผันผวนของค่าเงินขึ้นเสียก่อน
• เจ้าหน้าที่จากสหรัฐฯที่เข้าร่วมการเจรจาแก้ไขสนธิสัญญา NAFTA เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงความคิดเห็นในเชิงบวกเกี่ยวกับโอกาสที่การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ แคนาดา และเม็กซิโก จะสามารถประสบความสำเร็จในการหาข้อตกลงร่วมกันได้ พร้อมกล่าวโน้มน้าวให้ตัวแทนการเจรจาจากชาติอื่น อย่าได้ยึดติดกับกำหนดการมากเกิดไป
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีกำหนดแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 30 ม.ค.เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าของวันที่ 31 ม.ค.เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย
• ราคาน้ำมันทรงตัว ท่ามกลางปริมาณอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการอ่อนค่าของเงินดอลลารืและการปรับลดกำลังการผลิตจากกลุ่มโอเปกและรัสเซีย ขณะที่นักวิเคราะห์ออกมาเตือนว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯอาจเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดน้ำมันในปีนี้
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย 0.2% บริเวณ 66.29 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลงเล็กน้อย 8 เซนต์ บริเวณ 70.44 เหรียญ/บาร์เรล