รวมถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) วันนี้
• ทรัมป์เรียกร้องงบประมาณจำนวน 1.5 ล้านล้านเหรียญ สำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อปรับปรุงถนนและสิ่งก่อสร้างให้มีความทันสมัย ปลอดภัย และเชื่อถือได้สำหรับประชาชน
• ทรัมป์วางแผนปฏิรูประบบอพยพ 4 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. มอบสัญชาติให้กับเยาวชนจำนวน 1.8 ล้านคน ที่อพยพเข้าสหรัฐฯอย่างผิดกฏหมายในวัยเด็ก
2. เสริมความแข็งแกร่งในการป้องกันรักษาความปลอดภัยบริเวณชายแดน ซึ่งหมายถึงการก่อสร้างกำแพงชายแดน และเพิ่มทรัพยากรบุคคลเพื่อเข้ามาดูแลความปลอดภัย
3. ยกเลิกระบบวีซ่าแบบสุ่มที่ไม่ได้คัดกรองความสามารถ คุณธรรม และความปลอดภัยของผู้ยื่นขอวีซ่า
4. ยกเลิกการอนุมัติวีซ่าเพียงเพราะมีญาติอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ เพราะจะทำให้มีจำนวนผู้อพยพเข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้ผ่านการคัดกรอง
• ทรัมป์เรียกร้องของบประมาณเพิ่มเติมสำหรับกองทัพ พร้อมวางแผนจะปฏิรูปคลังอาวุธนิวเคลียร์ให้มีความทันสมัยและทรงพลังมากขึ้น เพื่อใช้ในการข่มขู่กลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีต่อสหรัฐฯ ให้หยุดกระทำการใดๆที่เป็นอุปสรรคต่อความมั่นคงในโลก
นายทรัมป์ยังได้แสดงความหวังว่า สักวันทุกประเทศในโลกจะร่วมมือกันและขจัดอาวุธนิวเคลียร์ให้หมดสิ้นไป แต่น่าเสียดายที่ยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริงเร็วๆนี้
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้กล่าวว่า หลังจากที่เขาได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีและได้ทำการต่อสู่กับกลุ่ม IS มาตลอด 1 ปี ปัจจุบันกลุ่ม IS ถูกกำจัดไปเกือบ 100% พร้อมยืนยันจะต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายต่อไป จนกว่าผู้ก่อการร้ายจะหมดสิ้
• ทรัมป์สนับสนุนประชาชนชาวอิหร่าน ที่ลุกขึ้นเพื่อต่อสู้กับความเป็นเผด็จการของผู้นำประเทศของพวกเขา พร้อมประกาศว่า สหรัฐฯจะให้การสนับสนุนเสรีภาพของมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสร่วมมือกันเพื่อหาจุดดบกพร่องในสัญญานิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านอีกด้วย
• ทรัมป์แสดงความผิดหวังที่สหรัฐฯได้ส่งเงินช่วยเหลือให้กับประเทศที่ปฏิเสธการรองรับนครเยรูซาเล็มให้เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ในที่ประชุมขององค์การสหประชาชาติ พร้อมเรียกร้องให้สภาคองเกรสทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนสหรัฐฯว่า เงินช่วยเหลือที่ถูกส่งไปต่างประเทศ จะเข้าสู่มือของประเทศที่ให้การสนับสนุนและมีผลประโยชน์ร่วมกันกับสหรัฐฯเท่านั้น
• ทรัมป์พูดถึงกรณีความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือ โดยระบุว่า สาเหตุที่เกาหลีเหนือมีท่าทีเหิมเกริมมาตลอดช่วงปีที่ผ่านมา เป็นเพราะความผิดพลาดของรัฐบาลชดก่อน พร้อมยืนยันว่าเขาจะไม่สร้างความผิดพลาดตามรัฐบาลชุดก่อน
ที่มา: The Guardian