• ถึงแม้ ดัชนี S&P 500 ได้ปรับร่วงลงไปกว่า 4.5% ในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา แต่บรรดานักกลยุทธ์หลายคน ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยังคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นมาได้ในระดับปานกลางในช่วงสิ้นปี โดยไม่ได้รับผลกระทบจากผลประกอบการของบรรดาบริษัทและอัตราดอกเบี้ย
• ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางตลาดทั่วโลกที่ชะลอความผันผวนในช่วงก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx 600 ปรับสูงขึ้น 0.7% ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก
• ตลาดหุ้นเอเชียปิดลบ หลังจากที่เคลื่อนไหวในแดนบวกได้ในช่วงเช้า ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่เทขายสัญญาซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ เพื่อหันเข้าหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น สามารถปรับสูงขึ้นเกือบ 2% ในช่วงเช้า ก่อนที่จะกลับมาปิดในแดนลบจากแรงเทขาย
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดบวก ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนจากการที่เหล่านักลงทุนยังคงมีท่าทีระมัดระวังต่อแรงเทขายที่เกิดขึ้นในช่วงตลาดที่ผ่านมา หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับลดลงไปอย่างหนัก ทั้งนี้ ดัชนี Nikkeiปิด +0.2% บริเวณ 21,645.37 จุด หลังขึ้นทำไประดับสูงสุดระหว่างวันที่ 22,353.87 จุด
• ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วงก่อนหน้านี้หลังจากการรีบาวด์ในหุ้นสหรัฐฯ และวันนี้ปรับลดลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน เนื่องจากเหล่านักลงทุนเทขายหุ้นอสังหาริมทรัพย์และหุึ้นผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปิด-1.81% ที่ะรดับ 3,309.58 จุด
• รมว.พาณิชย์ ระบุว่า ในเบื้องต้นจากการหารือร่วมกับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ประเมินร่วมกันกับกระทรวงพาณิชย์ว่ามูลค่าการส่งออกของไทยในปี 61 จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 6% แต่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่เป็นทางการ เพราะต้องรอผลสรุปจากที่ประชุมทูตพาณิชย์ในวันที่ 21-22 ก.พ.นี้ก่อน แต่ก็เชื่อว่าเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ไม่น่าจะโตต่ำกว่า 6% อย่างแน่นอน
• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในเดือนนี้ เป็นช่วงที่มีเทศกาลตรุษจีน ซึ่งความต้องการใช้ธนบัตรของประชาชนอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกติ จึงประมาณการว่าธนาคารพาณิชย์จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรจากธปท. ในช่วงสองสัปดาห์ก่อนเทศกาลตรุษจีนเพิ่มขึ้นจากการเบิกจ่ายปกติ เป็นมูลค่าสุทธิประมาณ 46,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ธปท. ได้เตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการไว้อย่างเพียงพอ