· ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในช่วงตลาดที่ผ่านมาด้วยอัตรามากที่สุดในรอบ 3 เดือน ประกอบกับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินยูโร ก่อนที่จะทรงตัวอยู่แถวระดับ 90.242 จุด ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 90.40 จุด
ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.1% บริเวณ 1.2278 ดอลลาร์/ยูโร แต่ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดของเมื่อวานนี้ ที่ 1.2246 ดอลลาร์/ยูโร และยังห่างจากระดับแข็งค่าที่สุดของเดือนที่ผ่านมาที่ 1.2538 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน
ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าขึ้น เล็กน้อยบริเวณ 109.37 เยน/ดอลลาร์
· บรรดาหัวหน้าวุฒิสมาชิกสหรัฐฯจากทั้ง 2 พรรค เมื่อคืนที่ผ่านมา สามารถบรรลุข้อตกลงในร่างกฏหมายงบประมาณชั่วคราวของรัฐบาลของสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลโดยเฉพาะในโครงการภาคครัวเรือนและการทหารไปได้ถึง 2 ปี โดยมีแนวโน้มที่จะทำการลงมติในคืนนี้ ทั้งในฝั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิก
อย่างไรก็ตามร่างกฏหมายน่าจะได้รับเสียงคัดค้านจากสมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วนที่มีความกังวลเกี่ยวกับภาวะขาดดุลของรัฐบาล รวมถึงฝ่ายค้านที่ไม่เห็นด้วยที่จะเพิ่มงบประมาณให้ทางการทหาร
· หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก BNP Paribas กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจแข็งแกร่งกว่าที่ได้ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ และอาจทำให้เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้จำนวน 4 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ในรายงานฉบับล่าสุดของทาง BNP Paribas มีการปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ อันเป็นปัจจัยที่จะทำให้เฟดสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้มากขึ้นอีก 1 ครั้งในปีนี้ จากระดับคาดการณ์ในปัจจุบัน อันเป็นผลส่วนหนึ่งมาจากแผนการปฏิรูปภาษี
ทั้งนี้ BNP Paribas มีการปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2018 ทั้งสหรัฐฯและยูโรโซน ว่าจะขยายตัวได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2017 จนถึงปี 2018
· สำนักข่าว Reuters เผย เกาหลีเหนือยังไม่มีแนวคิดที่จะจัดการประชุมร่วมกับสหรัฐฯ ในระหว่างที่ตัวแทนจากประเทศกำลังพักอยู่ในเกาหลีใต้เพื่อเข้าร่วมงานกีฬาโอลิมปิก ที่จะเริ่มขึ้นในวันศุกร์นี้
· ยอดการค้าเครื่องจักรจีนเพิ่
มขึ้นในเดือนม.ค. หลังจากที่ร่วงลงในเดือนก่อนหน้
า ขณะที่ยอดนำเข้า-ส่งออก ขยายตัวได้เกินคาด จึงเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงความแข็
งแกร่งในช่วงเริ่มต้นปี
ของภาวะอุปสงค์ทั่วโลก แม้ว่าจีนจะเผชิญกับภาวะมลพิ
ษในโรงงานอุตสาหกรรม และความเสี่ยงทางการเงิ
นจากภาวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้
ย
ยอดส่งออกในเดือนม.ค. ปรับขึ้น 11.1% เมื่อเทียบรายปี และสูงขึ้นเมื่อเทียบกับระดับ 10.9% ในเดือนธ.ค. ขณะที่ยอดนำเข้าของจีนชะลอตัวลงแตะ 4.5% ในเดือนม.ค. ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะอุปสงค์ภายในประเทศที่ชะลอตัวลง
· นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าบีโอเจ ยืนยันจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางต่อไป เพื่อสร้างความสมดุลให้กับตลาดการเงินในประเทศ
· นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความหวังว่าสหรัฐฯจะสามารถโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วยสันติวิธี แต่ก็ได้กล่าวเตือนไม่ให้เกาหลีเหนือดูถูกแสนยานุภาพของกองทัพสหรัฐฯ
· ธนาคารกลางจีน (PBOC) เผย ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในเดือนม.ค. ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 3.1615 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12
· ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น จากข่าวการหยุดให้บริการของท่อส่งน้ำมัน Forties ในทะเลเหนือ ที่มีการขนส่งน้ำมันเป็นปริมาณกว่า 450,000 บาร์เรล/วัน และจากปริมาณการน้ำเข้าน้ำมันของจีน หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับร่วงลงในช่วงก่อนหน้าจากข่าวการปรับตัวสูงขึ้นของปริมาณผลิตน้ำมันสหรัฐฯที่ระดับสูงกว่า 10 ล้านบาร์เรล/วัน
โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นมาเคลื่อนไหวแถวบริเวณ 65.51 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากปรับลงทำระดับต่ำสุดที่ 65.12 เหรียญ/บาร์เรล ในช่วงตลาดก่อนหน้า
ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นมาเคลื่อนไหวแถวบริเวณ 61.73 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากปรับลงทำระดับต่ำสุดที่ 61.33 เหรียญ/บาร์เรล ในช่วงตลาดก่อนหน้า