ทั้งนี้ แม้ทางสถาคองเกรสมีความเชื่อมั่นว่าร่างกฏหมายงบประมาณจะสามารถผ่านการลงมติไปได้ แต่กลับต้องมาถูกชะลอการลงมติออกไป โดยนายแรนด์ พอล สมาชิกวุฒิสภารีพับลิกัน ได้ทำการยืดเยื้อการออกเสียงสนับสนุน เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับภาวะขาดดุลของรัฐบาลกว่า 3 หมื่นล้านเหรียญ
อย่างไรก็ดี บรรดาวุฒิสมาชิกมีกำหนดการจะทำการลงมติอีกครั้งในช่วงเช้าของวันศุกร์ หรือก็คือคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย ประกอบกับบรรดาผู้นำพรรคเชื่อมั่นว่าร่างงบประมาณจะสามารถเรียกเสียงสนับสนุนได้เพียงพอ จึงคาดว่าภาวะ Shutdown ครั้งนี้ น่าจะคงอยู่ได้ไม่นานนัก
ทั้งนี้ สภาคองเกรสล้มเหลวในการผ่านร่างงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Shutdown ได้ก่อนกำหนดเส้นตายวันนี้ จึงทำให้ภาพทางเทคนิคฉายแววการปิดตัวของหน่วยงานในภาครัฐบางส่วน ซึ่งภาวะ Shutdown อาจได้รับการหารือเพื่อเร่งแก้ไขโดยด่วนจากทางสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐฯในค่ำคืนนี้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่จะสามารถยุติปัญหาที่เกิดขึ้นได้ก่อนเริ่มต้นวันทำการสัปดาห์หน้า
เมื่อพิจารณาภาวะ Shutdown ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2013 และสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทางการได้เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนม.ค. ที่ผ่านมาว่าผลที่จะตามมาจากภาวะดังกล่าว อาทิเช่น
1. ทางการทหาร
กระทรวงกลาโหม ระบุในเดือนที่แล้วว่า ภาวะ Shutdown อาจไม่ส่งผลกระทบต่อทางทหารในการสู้รบที่อัฟกานิสถานหรือการจัดการกับกลุ่มก่อการร้าย IS ในอิรักและซีเรีย แต่รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ระบุว่า อาจส่งผลงบประมาณการซ่อมบำรุงและอาจทำให้เครื่องบินรบบางส่วนถูกระงับการใช้งานชั่วคราว
2. กระทรวงยุติธรรม
อาจส่งผลให้พนักงานของหน่วยงานด้านความยุติธรรมทำงานได้ 95,000 ราย จาก 115,000 ราย
3. การเงิน
หน่วยงานของภาครัฐที่กำกับดูแลการซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ จะยังคงเปิดทำการด้วยกำลังคนเต็มที่ แม้ชั่วโมงทำงานอาจลดลงไปบ้าง เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดสหรัฐฯเอาไว้ อย่างไรก้ตาม คณะกรรมการกำกับดูแลการซื้อขายอนุพันธ์สินค้าโภคภันฑ์ ออกมาเปิดเผยว่า จะสั่งพักงานเจ้าหน้าที่คิดเป็นจำนวน 95% โดยทันที เว้นแต่ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินทางตลาด ก็จะทำการเรียกเจ้าหน้าที่กลับมาทำงานโดยด่วน
4. คมนาคม
คาดว่าจะไม่มีผลกระทบ โดยเฉพาะสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางทางอากาศ โดยหน่วยงานที่ดูแลรักษาความปลอดภัยด้านการคมนาคม มีแผนที่จะรักษาเจ้าหน้าที่จำนวน 53,865 นาย จากทั้งหมด 58,295 นาย เพือให้สามารถปฏิบัติตามหน้าที่ได้อย่างไม่บกพร่องท่ามกลางภาวะ Shutdown ของรัฐบาล
5. สุขภาพ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประกันสุขภาพของภาครัฐ จะยังคงเปิดรับสมัครผู้ขอประกันรายใหม่ ขณะที่โปรแกรมประกันสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการคาดว่าจะดำเนินการต่อได้โดยไม่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานควบคุมโรค มีแนวโน้มจะดำเนินงานต่อไปในภาวะ Shutdown ได้ไม่เต็มที่ แต่จะให้ความสำคัญไปยังการควบคุมการระบาดของไข้หวัดใหญ่เป็นอันดับแรก
6.พลังงาน
เนื่องจากแผนการดำเนินดำเนินส่วนใหญ่ของกระทรวงพลังงานเป็นแผนระยะยาวที่กินเวลาหลายปี จึงคาดว่าเจ้าหน้าของกระทรวงพลังงานจะยังสามารถทำงานได้ตามปกติท่ามกลางภาวะ Shutdown เว้นเสียแต่ จะมีประกาศแผนดำเนินงานออกมาใหม่