• ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางแรงซื้อกลับเข้าสู่ตลาดค่าเงิน หลังจากที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงไปทั่วและรวมทั้งหุ้นในภูมิภาคเอเชียด้วย
โดยนักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่มีการปิดสถานะมากกว่าที่จะทำการเปิดสถานะจากมุมมองความเสี่ยงที่ลดลง ขณะที่ความผันผวนมีเพิ่มมากขึ้น
ค่าเงินเยนแข็งค่าลงมา 108.5 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดรอบ 4 เดือนบริเวณ 108.28 เยน/ดอลลาร์ ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ก่อนที่จะดีดกลับในภายหลังบริเวณ 108.99 เยน/ดอลลาร์ แต่ภาพรวมสัปดาห์นี้ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า 1.1% ในสัปดาห์นี้
ขณะที่ตลาดการเงินเคลื่อนไหวจำกัด หลังจากที่สภาคองเกรสพลาดการผ่านร่างงบประมาณได้ทันก่อนช่วงกำหนดเส้นตายเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Shutdown ของภาครัฐบาล และส่งผลให้ล่าสุดทางวุฒิสภาสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว และมีการยื่นต่อให้ทางสภาผู้แทนราษฎรเป็นลำดับต่อไป
· ค่าเงินยูโรทรงตัวแถว 1.2254 ดอลลาร์/ยูโร ภาพรวมสัปดาห์นี้ปรับลดลงไป 1.6% ซึ่งถือเป็นระดับสัปดาห์ที่ม่ีการอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่พ.ย. ปี 2016
• รายงานจาก FX Street ระบุว่า ภาพแท่งเทียนของดัชนีดอลลาร์เคลื่อนไหวแบบ Doji ขณะที่ดัชนีดอลลาร์มีระดับการซื้อขายแถว 90.20 จุดในตลาดเอเชีย ซึ่งข่าว Shutdown อาจเป็นปัจจัยที่กดดันให้ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 90 จุดได้ ทั้งนี้ หากดัชนีดอลลาร์หลุดต่ำกว่า 89.9 จุดซึ่งเป็นระดับต่ำสุดวานนี้ ก็มีโอกาสกลับลงทดสอบ 89.33 จุด และแนวรับสำคัญ 89.00 จุดตามลำดับ แต่ในทางตรงกันข้าม หากดัชนีดอลลาร์ผ่าน 90.27 จุดได้ ก็มีโอกาสปรับขึ้นไปที่ 90.46 จุด และ 90.77 จุดตามลำดับ
• สภาวุฒิสมาชิกแห่งสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฏหมายงบประมาณเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา แต่รัฐบาลได้เข้าสู่ภาวะ Shutdown ไปแล้วหลังไม่ทันกำหนดวันหมดอายุของร่างงบประมาณฉบับก่อนหน้า
และจะส่งต่อไปให้ทางฝั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทำการลงมติต่อในช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งโฆษกประจำทำเนียบขาวได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่าร่างงบประมาณจะสามารถผ่านการลงมติในฝั่งส.ส. ไปได้อย่างแน่นอน
• นายวิลเลียม ดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า ตราบเท่าที่เศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวได้ดี เขาก็พึงพอใจที่จะสนับสนุนให้เฟดทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.นี้
• รองผู้ว่าบีโออี กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในปีนี้ น่าจะไม่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดมากนัก พร้อมกล่าวเสริมอีกว่า ทางธนาคารกลางยังไม่มีการกำหนดแผนการดำเนินงานปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด
• สำนักงานสถิติจีน (NBS) เผย ข้อมูลเงินเฟ้อจีนชะลอตัวลง โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวลงตามคาดแตะ 1.5% ในเดือนม.ค. จากระดับ 1.8% ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับขึ้น 4.3% เมื่อเท่ียบรายปี แต่ก็ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ 4.9%
แหล่งข่าวจากรอยเตอร์ส ระบุว่า รัฐบาลจีนยังคงตั้งเป้าหมายเงินเฟ้อปีนี้ที่ระดับ 3% จึงสะท้อนว่า บรรดาผู้กำหนดนโยบายอาจไม่ทำการปรับเพิ่มคาดการณ์ดัชนีราคาใดๆ
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงติดต่อกัน 6 วันทำการ หลังจากที่อิหร่านประกาศแผนการที่จะเพิ่มการผลิตและผลผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งความวิตกกังวลที่เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับการภาวะอุปทานทั่วโลก
ทั้งนี้ น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลง 0.7% ที่ระดับ 64.37 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ปรับลง 1% ที่ระดับ 60.53 เหรียญ/บาร์เรล