· ราคาทองคำระหว่างวัน ปรับสูงขึ้น 0.4% บริเวณ 1,358.74 เหรียญ โดยทำจุดสูงสุดที่ 1,359.47 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ท่ามกลางแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ และการเข้าซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงของเหล่านักลงทุน
สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นมาได้ 3% ซึ่งมีแนวโน้มจะเป็นอัตราการปรับตัวรายสัปดาห์ที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. ปี 2016
ด้านราคาสัญญาทองคำตลาด COMEX ปรับสูงขึ้น 0.5% บริเวณ 1,361.60 เหรียญ
· หัวหน้าฝ่ายบริหารพอร์ตจาก Adroit Financial Services กล่าวว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้สามารถปรับสูงขึ้นได้จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ และปริมาณอุปสงค์ในทองคำแท่งก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน
ทั้งนี้ ราคาทองคำมีแนวโน้มจะมีผลประกอบที่แข็งแกร่งได้ภายในปีนี้ ท่ามกลางสัญญาณของอัตราเงินฟ้อที่จะขยายตัวขึ้นในหลายๆประเทศ
· ด้านดัชนีดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก จึงมีแนวโน้มที่ในภาพรวมรายสัปดาห์นี้ ดัชนีดอลลาร์จะมีผลประกอบที่แย่ที่สุดในรอบ 2 ปี
· ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ (PPI) ออกมาดีขึ้นเกินคาดแตะระดับ 0.4% ในเดือนม.ค. ท่ามกลางแรงหนุนจากมูลค่าที่สูงขึ้นของพลังงานและค่ารักษาสุขภาพ ขณะที่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯเพิ่มสูงขึ้น 7,000 คน สู่ระดับ 230,000 คน
· นักวิเคราะห์จาก INTL FCStone คาดการณ์ว่า ราคาทองคำในสัปดาห์ถัดไป น่าจะได้รับแรงหนุนจาก การขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ตัวเลขเศรษฐกิจที่คาดว่าจะออกมาอ่อนแอ และเงินดอลลาร์ที่ยังคงอ่อนค่า ทั้งนี้ ต้องจับตาราคาทองคำที่ระดับ 1,365 และ 1,375 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของราคาทองคำเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา
· ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.2% บริเวณ 16.91 เหรียญ
ราคาแพลทินั่มปรับสูงขึ้น 0.6% บริเวณ 1,006.90 เหรียญ หลังทำระดับสูงสุดที่ 1,007.40 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 1 ก.พ.
ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.2% บริเวณ 1,020 เหรียญ สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 4.5% จึงเป็นผลประกอบที่ดีที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.
· นักวิเคราะห์จาก Kitco ,,,,,วิเคราะห์ว่า ภาพทางเทคนิคของราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นได้วานนี้หลังจากที่ถูกแรงเทขายในวันก่อนหน้า จึงทำให้ราคาทองคำระยะสั้นกลับมาเป็นขาขึ้น แต่หากจะเป็นขาขึ้นโดยสมบูรณ์ต้องยืนได้เหนือระดับแนวต้านสำคัญทางเทคนิคบริเวณ 1
370.5 เหรียญ แต่ในทางตรงกันข้ามหากทองคำหลุดแนวรับแรกของวันนนี้บริเวณ 1
340 เหรียญ ก็มีโอกาสกลับลงทดสอบแนวรับสำคัญทางเทคนิคที่ 1
320 เหรียญ สำหรับวันนี้คาดทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1
350 - 1359.8 เหรียญ
· สถาบันการเงิน Capital Economics ไม่คิดว่าปีนี้ค่าเงินดอลลาร์จะอยู่ในทิศทางแข็งค่า ดังนั้น ผลสะท้อนนี้จึงน่าจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ
นักเศรษฐศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จาก
Capital Economics คาดการณ์ว่า ในช่วงสิ้นปี 2018 ค่าเงินดอลลาร์จะปิดแถวระดับปัจจุบันนี้เมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร และค่าเงินเยน แต่จะอ่อนค่าได้เล็ฏน้อยเมื่อเทียบกับค่าเงินปอนด์ ขณะที่คาดว่าราคาทองคำจะปรับขึ้นได้ประมาณ 70 เหรียญ และซิลเวอร์จะปรับขึ้นได้ 0.5 เหรียญ
จึงทำให้คาดการณ์ของราคาทองคำมีการปรับทบทวนขึ้นมาจากระดับ 1
,200 เหรียญ สู่ระดับ 1270 เหรียญ ขณะที่ซิลเวอร์ปรับขึ้นจาก 15 เหรียญ สู่ระดับ 15.50 เหรียญ โดยไม่คิดว่าทองคำจะกลับเป็น ขาขึ้นโดยสมบูรณ์ เนื่องจากยังมีความเสี่ยงขาลงให้ต้องเผชิญอยู่ ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ต้องระมัดระวังอยู่ คือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด