· ดัชนีดาวโจนส์ปิด +0.08% ที่ระดับ 25,219.38 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.04% ที่ระดับ 2,732.22 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.23% ที่ระดับ 7,239.47 จุด
ภาพรวมสัปดาห์ที่แล้วดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้น 4.25% ซึ่งถือเป็นระดับการฟื้นตัวที่มากที่สุดนับตั้งแต่พ.ย. ปี 2016 ขณะที่ดัชนี Nasdaq สัปดาห์ที่แล้วถือเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ ธ.ค. ปี 2011 ด้วยการปรับขึ้นได้ 5.31%
ขณะที่ดัชนี S&P500 สัปดาห์ที่แล้ว +4.3% เป็นระดับสัปดาห์ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ม.ค. ปี 2013 แต่ภาพรวมก็ยังคงอ่อนตัวลงไปประมาณ 5% เมื่อเทียบจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา
ตลาดหุ้นสหรัฐฯมีการปรับฐานจากความกังวลเงินเฟ้อในช่วงต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา จึงทำให้ภาพขาขึ้นของตลาดในช่วง 9 ปีนั้นสิ้นสุดลง แต่ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคและยอดค้าปลีกที่ออกมาในสัปดาห์ที่แล้วได้ช่วยลดคววามกังวลในตลาดและทำให้ตลาดกลับมาเป็นขาขึ้นได้ชั่วคราวอีกครั้ง อย่างไรก็ดี แรงบวกของตลาดถูกสกัดกั้นจากข่าวทีว่า นายโรเบิร์ต มูลเลอร์ คณะกรรมาธิการสอบสวนพิเศษของสหรัฐฯได้กระทำการเข้าจับกุมชาวรัสเซีย 13 คน และองค์กรรัสเซีย 3 แห่งที่ถูกกล่าวหาว่าทำการแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯเพื่อให้การสนับสนุนทรัมป์ชนะศึกเลือกตั้ง
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนบวกในเช้าวันนี้ หลังจากที่ดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯปิดบวกต่อเนื่อง 6 วันทำการในคืนวันศุกร์ และทำให้ภาพรวมรายสัปดาห์ปรับตัวได้มากทีสุดในรอบ 5 ปี ขณะที่ตลาดจีนส่วนใหญ่ยังคงปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน
ดัชนีนิกเกอิเปิด +1.13% ขณะที่ดัชนี Topix เปิด +1.2% และดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด 0.87%
· สำหรับวันนี้ตลาดสหรัฐฯจะปิดทำการเนื่องในวัน President’s Day
· นักบิหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์นี้ไว้ที่ระหว่าง 30.70-31.40 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยในประเทศที่ต้องจับตา คือ รายงานตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 4/60 และข้อมูลการส่งออกเดือน ม.ค.61 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง และดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการ (เบื้องต้น) เดือนก.พ. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอประเมินสัญญาณเกี่ยวกับจังหวะดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จากบันทึกการประชุมเฟดเมื่อเดือน ม.ค.และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ตลอดจนรายงานดัชนี PMI ของประเทศสมาชิกยูโรโซน และญี่ปุ่นในระหว่างสัปดาห์ด้วยเช่นกัน
· รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเรื่องตัวแทนการให้บริการทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ (banking agent) นั้น ธปท. ขอชี้แจงว่าไม่ได้เป็นการอนุญาตให้เอกชนมาขอใบอนุญาตทำธุรกิจธนาคารพาณิชย์ใหม่ ปัจจุบัน ธปท. ยังไม่มีนโยบายให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่
อย่างไรก็ตาม ธปท.ได้ปรับปรุงกฎเกณฑ์เกี่ยวกับช่องทางการให้บริการของธนาคารพาณิชย์ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับบริการการเงินได้สะดวก และทั่วถึงมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ banking agent จะมีขอบเขตการให้บริการจำกัด