• ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงในวันนี้ หลังจากที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับร่วงลง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นจากระดับต่ำสุดรอบ 3 ปี โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นปรับตัวลง 0.25% ขณะที่หุ้นออสเตรเลียเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ทางด้านดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ร่วงลง 1.2% และดัชนีฮั่งเส็งปิดร่วง 0.4%
ดัชนีนิกเกอิปิดร่วงลง 1.4% หลังจากที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ ขณะที่เมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นได้ 2% โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากกลุ่มนักลงทุนที่ทำการเทขายทำกำไรในหุ้นหลังจากที่หุ้นฟื้นตัว ขณะที่หุ้นกลุ่มการธนาคารและประกันไม่ค่อยสดใสนัก
• ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวขึ้นท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่คอยจับตาการประกาศรายงานผลประกอบการภาคบริษัทต่างๆ โดยดัชนี Stoxx 600 เปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากเมื่อวานนี้ หลังจากที่ได้รับแรงหนุนจากหุ้นหลักส่วนใหญ่
• รายงานจาก HSBC เผยผลกำไรออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งธนาคารขนาดใหญ่ของยุโรปได้รับผลกระทบบางส่วนจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีของสหรัฐฯ แต่ ภาพรวมผลกำไร Pre-Tax ดูจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวในปีก่อนหน้า
โดยภาพรวมในปี 2017 HSBC ระบุว่า รายงานผลประกอบการเพิ่มขึ้น 23% ที่ระดับ 2.002 หมื่นล้านเหรียญฮ่องกง (2.6 พันล้านเหรียญฯ) ซึ่งเป็นการประกาศผลประกอบการที่สูงกว่าที่คาด เพราะได้รับอานิสงส์จากเงินได้ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมเงินได้ ที่เพิ่มขึ้นจากการซื้อขายหุ้นและยอดขายกองทุนควบคู่กับหนี้เสียที่ปรับลดลง
• สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เตือนว่า การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจอย่างมาก เพราะการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้มีความเสี่ยงในหลายแง่มุม หากผู้ลงทุนไม่เข้าใจอย่างแท้จริงจะเสียหายได้โดยง่าย
• KBANK เผยเงินบาทยังแข็งค่า เหตุ ธปท.มีข้อจำกัดการดูแล หลังเข้าแทรกแซงเฉียด 2% ของจีดีพีแล้ว และคาดว่าเงินบาทปีนี้จะแตะ 30.80 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าสูงสุดรอบ 5 ปี รับช่วงไฮซีซั่นท่องเที่ยว-ดอลลาร์ยังอ่อนค่า
• BAY มองเศรษฐกิจทยปี 61 โต 4% เงินเฟ้ออยู่ที่ 1.7% คาด กนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25%