• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 6 วันทำการเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยเป็นการปรับแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากระดับต่ำสุดรอบ 3 ปี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยตลาดยังได้รับอานิสงส์จากการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นอีก 0.69% ที่ระดับ 89.713 จุด โดยเป็นการปรับขึ้นระดับวันที่ดีที่สุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.58% ที่ระดับ 1.2335 ดอลลาร์/ยูโร
• บรรดาเทรดเดอร์ในตลาดการเงินกำลังจับตาไปยังการเคลื่อนไหวของตลาดพันธบัตรเพื่อหาสัญญาณการเคลื่อนไหวของนักลงทุนต่างชาติว่ามีความต้องการถือครองสินทรัพย์ใดของสหรัฐฯ หลังจากที่บรรดานักลงทุนแห่ถอนเงินออกจากกองทุนตราสารหนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯเริ่มฟื้นตัว จนเกิดความวิตกกังวลว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นปรับขึ้นทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ก.ย. ปี 2008 จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์รีบาวน์กลับ แต่กดดันการฟื้นตัวต่อเนื่อง 6 วันทำการของตลาดหุ้นทั่วโลก
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีที่ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดรอบ 4 ปี ก็มีแรงขายของกลุ่มนักลงทุนอย่างหนักในสัปดาห์นี้กว่า 2.58 แสนล้านเหรียญ โดยล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับตัวลงมาแถวระดับ 2.8896%
แรงขายในอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 1 เดือนมีแรงขายออกมา 5.5 หมื่นล้านเหรียญ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนปรับลงมาอยู่ที่ 1.38% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีปรับตัวลงมาที่ 2.255% หลังถูกขายออกมา 2.8 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งถือเป็นระดับการขายมากที่สุดนับตั้งแต่ส.ค. ปี 2008
• เหล่าเทรดเดอร์บางส่วนมีมุมมองว่า ความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และความเป็นไปได้จากการเพิ่มขึ้นของยอดเงินกู้ภายในสหรัฐฯอาจช่วยจำกัดอุปสงค์ของพันธบัตรในสัปดาห์นี้
• Bitcoin ปรับขึ้นทำระดับสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ และปรับขึ้นได้เกือบ 100% จากระดับต่ำสุดในปีนี้ โดยฟื้นตัวกลับได้อย่างต่อเนื่องจาก กลต.เกาหลีใต้ที่จะผ่อนคลายท่าทีต่อการซื้อขายค่าเงิน Crytocurrencies
• นายโรเบิร์ต มูลเลอร์ คณะกรรมาธิการสืบสวนสอบสวนพิเศษ สร้างแรงกดดันทางการเมืองมากขึ้น หลังจากมีการจับกุมอดีตเจ้าหน้าที่ 2 รายที่ให้การช่วยเหลือนายทรัมป์ในช่วงหาเสียง และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีส่วนเกี่ยวโยงกับทางรัสเซีย หลังจากที่มีการกล่าวเท็จในกระบวนการสืบสวนของนายมูลเลอร์
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและล้มเหลวในการจดทะเบียนเป็นตัวแทนหน่วยงานต่างประเทศที่เชื่อมโยงกับการทำงานกับทางพรรค Pro-Russia Ukrainian
• ประธานธนาคารกลางเกาหลีใต้ กล่าวว่า เกาหลีใต้เตรียมที่จะตอบโต้ผลกระทบเชิงลบจากการดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ของเฟด เนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วขึ้นของเฟดจะส่งผลสะท้อนต่อตลาดการเงินระดับนานาชาติ รวมไปถึงตลาดภายในประเทศด้วย
• รัฐมนตรีกระทรวงการคลังยูโรโซน เปิดเผยว่าจะทำการนายหลุยส์ เดอ กินน์ดอส รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของสเปนมาดำรงตำแหน่งรองประธานอีซีบีคนใหม่ แทนนายวิเตอร์ คอนสแตนซิโอ ที่จะหมดวาระในเดือนพ.ค. ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวดูมีแนวโน้มจะหนุนโอกาสให้ นายเจนส์ เวียดแมนน์ ผู้ว่าการธนาคารกลางเยอรมนี หรือบุนเดสแบงก์ (Bundesbank) มาดำรงตำแหน่งประธานอีซีบีต่อไปในปีหน้า เนื่องจาก นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบีจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในปี 2019 และดูทีท่าว่าจะมีนโยบายคุมเข้มทางการเงินมากกว่าประธานอีซีบีคนปัจจุบัน
• ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นใกล้ระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายปานกลางในตลาด ประกอบกับสต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง และกระแสคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อาจขยายข้อตกลงออกไปจนถึงช่วงหลังของปี 2018 ขณะที่น้ำมันดิบBrent ถูกกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์
• น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 22 เซนต์ หรือคิดเป็น +0.4% ที่ระดับ 61.9 เหรียญ/บาร์เรล ท่ามกลางสัญญาส่งมอบเดือนมี.ค.ที่จะหมดอายุลง โดยช่วงต้นตลาดราคาปรับขึ้นไปทำระดับสูงสุดบริเวณ 62.74 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 7 ก.พ.
• ทางด้านน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับลง 42 เซนต์ คิดเป็น -0.6% ที่ระดับ 65.25 เหรียญ/บาร์เรล โดยระหว่างวันมีการซื้อขายเคลื่อนไหวในกรอบ 64.78-65.81 เหรียญ/บาร์เรล