• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561

    23 กุมภาพันธ์ 2561 | Economic News


 

• ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ขณะที่ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าขึ้นจากความผันผวนในตลาดที่ทำให้นักลงทุนกลับเข้าถือครองค่าเงินเยน

ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.31% % ที่ระดับ 89.724 จุด จากระดับสูงสุดเมื่อวานนี้บริเวณ 90.235 จุด แต่ภาพรวมดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นได้เกือบ 2นับตั้งแต่ที่ลงไปทำระดับต่ำสุดรอบ 3 ปีในวันศุกร์ที่แล้วบริเวณ 88.253 จุด

• นักกลยุทธ์จาก Credit Agricole กล่าวว่า การอ่อนตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ฉุดให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงมา โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับมาทรงตัวที่ 2.926% %หลังจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมาทำระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี บริเวณ 2.957

ขณะที่ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าลงมา 1.04% ที่ระดับ 106.64 เยน/ดอลลาร์ ท่ามกลางความผันผวนที่เพิ่มขึ้นในตลาดและทำให้นักลงทุนกลับเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภั

• ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.42% ที่ระดับ 1.2333 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่การประชุมอีซีบีในเดือนที่ผ่านมาดูเหมือนจะมีมุมมองที่ว่ายังเร็วเกินไปที่จะส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงการให้สัญญาณปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ จนกว่าจะมีความมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อจะกลับขึ้นสู่เป้าหมายที่กำหนดได้

• นายโรเบิร์ต เคพแลนด์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจำนวน 3 ครั้งของเฟดในปีนี้เป็นเรื่องที่ “สมเหตุสมผล” แล้ว แต่ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอาจเปลี่ยนแปลงการดำเนินการได้ แต่ความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นหรือข้อมูลเศรษฐกิจอาจเปลี่ยนแนวโน้มการดำเนินนโยบายได้ ดังนั้น เขาจึงจะจับตาความผันผวนในตลาดเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเงื่อนไขของตลาดการเงิน รวมทั้งทำให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว

• นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธษนเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC โดยระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่มากไปอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวมากขึ้น

• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 45 ปี จึงยังบ่งชี้ถึงภาวะแข็งแก่รงของตลาดแรงงานในเดือน ก.พ. และภาพรวมที่แข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ

• นายเควิน แฮสเซท ประธานคณะกรรมาธิการที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่แต่อย่างใด และประชาชนก็ไม่จำเป็นต้องกังวลกับความผันผวนดังกล่าว

• ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของญี่ปุ่น ที่ไม่รวมราคาอาหารสด ยังคงขยายตัวในเดือนม.ค. ที่ 0.9% ส่งผลให้ภาพรวมของอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศยังคงทรงตัวจากปีที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดยังคงคาดการณ์ว่าบีโอเจจะยังคงไม่มีแนวโน้มยกเลิกใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินในเร็วๆนี้

• ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เพราะได้รับอานิสงส์จากข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบที่ออกมาลดลงเกินคาด ประกอบกับการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์

น้ำมันดิบ WTI % Brent% High ปิดปรับขึ้น 1.09 เหรียญ หรือคิดเป็น +1.8 ที่ระดับ 62.77 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ ปิดปรับขึ้น 97 เซนต์ คิดเป็น +1.5 ที่ระดับ 66.39 เหรียญ/บาร์เรล และระหว่างวันไปทำรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 66.56 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com