• ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 347.51 จุด หรือคิดเป็น +1.39% บริเวณ 25,309.99 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิด +1.60% บริเวณ 2,747.30 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +1.77% บริเวณ 7,337.39 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวก ท่ามกลางแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ย่อตัวลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับขึ้นในเช้านี้ ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหรัฐฯที่อ่อนตัวจากระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี โดยดัชนีนิกเกอิเปิดปรับขึ้นกว่า 292.69 จุด คิดเป็น +1.34% โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากกหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี การเงิน และกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์
• นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์ถัดี้ อยู่ที่ระหว่าง 31.00-31.70 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องจับตาจะอยู่ที่รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนม.ค. และตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.พ.ของไทย ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ คือการรอสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ข้อมูลรายได้-การใช้จ่ายส่วนบุคคล และตัวเลขเงินเฟ้อที่วัดจาก Core PCE Price Index เดือนม.ค. 2561 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.พ. 2561 นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามถ้อยแถลงของสมาชิกเฟดด้วยเช่นกัน