• ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 3 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังจากที่ประธานเฟดคนล่าสุดมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ ที่อาจหนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้มากขึ้นในปีนี้ โดยดัชนีดอลลาร์ทรงตัวบริเวณ 90.395 จุด หลังจากที่ขึ้นไปทำ High บริเวณ 90.498 ุจุดเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์
ทางด้านค่าเงินเยนปรับแข็งค่าลงมา 0.2% ที่ระดับ 107.1 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่บีโอเจปรับลดจำนวนการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGBs) โดยเจ้าหน้าที่จากบีโอเจ ระบุว่า การดำเนินการใดๆเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการจัดการการเข้าซื้อพันธบัตรเป็นเพียงการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ไม่ได้เป็นการย้ำถึงแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินใดๆ
• นักวิเคราะห์มองว่า ค่าเงินดอลลาร์อาจเผชิญความผันผวนเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนในช่วง 2-3 สัปดาห์จากนี้ ท่ามกลางความเป็นไปได้จากแรงขายทำกำไรในค่าเงินดอลลาร์ จากกลุ่มนักลงทุนญ๊่ปุ่นก่อนที่เข้าสู่ช่วงสิ้นสุดงบประมาณประจำปีของญี่ปุ่นในเดือนมี.ค.
• ขณะที่ผู้ว่าการบีโอเจกล่าวว่าการเริ่มปรับโนยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติอาจเป็นการดำเนินการที่ค่อยเป็นค่อยไปอย่างมาก ซึ่งบีโอเจจำต้องระมัดระวังความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญ๊่ปุ่น
• ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.1% แตะ 1.2224 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 9 ก.พ.บริเวณ 1.2215 ดอลลาร์/ยูโร
• เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ชี้ โอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนมี.ค.อยุ่ที่ 81.7% และ 71.1% สำหรับการประชุมเดือนมิ.ย.
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ท่ามกลางข้อมูลภาคอุตสาหกรรมของจีนและญี่ปุ่นที่อ่อนแอ ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและอาจจะทำให้อุปทานน้ำมันลดลง ขณะที่ รายงานข้อมูลอุตสาหกรรมแสดงถึงการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ
ทั้งนี้ น้ำมันดิบ WTI ปรับลง 0.5% ที่ระดับ 62.69 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ Brent ปรับลง 0.4% ที่ระดับ 66.38 เหรียญ/บาร์เรล
เทรดเดอร์ กล่าวว่า ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกหลังจากที่การเติบโตของโรงงานจีนประจำเดือนก.พ.อยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. ปี 2016 ที่ผ่านมา