MTS Help Center

• ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงต่อเนื่องหลังจากที่วันพุธร่าวงลงไป 380.83 จุด หรือคิดเป็น -1.5% ขณะที่เมื่อคืนนี้ปิด 420.22 จุด หรือคิดเป็น -1.68% ที่ระดับ 24,608.98 จุด ด้านดัชนี S&P500 ปิด -1.33% ที่ระดับ 2,677.67 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -1.27% ที่ระดับ 7,180.56 จุด

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ปิดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการหลังจากที่นายทรัมป์ประกาศว่าสหรัฐฯจะทำการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม จึงเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับราคาที่สูงขึ้นและสงครามการค้า

ข่าวดังกล่าวถือเป็นการเตือนต่อประเทศในแถบยุโรปและสร้างความไม่พอใจต่อนานาประเทศ จึงฉุดให้หุ้นสหรัฐฯร่วงลง แม้ว่าหุ้นในกลุ่มผู้ผลิตสหรัฐฯจะปรับตัวขึ้น โดยหุ้น US Steel ปรับขึ้น 5.8% และหุ้น AK Steel ปิด +9.5%

• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวลงในเช้านี้ ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ถูกกดันจากข่าวการเรียกเก็บภาษีของนายทรัมป์ล่าสุด ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้สหรัฐฯและประเทศคู่ค้าเกิดสงครามทางการค้า และการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวดูมีแนวโน้มจะส่งผลต่อเงินเฟ้อ จึงอาจเห็นดัชนีราคาผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นได้

• ดัชนีนิเกอิเปิด -2.37% ในเช้านี้ โดยถูกกดันจากหุ้นกลุ่มเหล็กที่ปรับตัวลดลง อันได้แก่ JFH Holdings ที่เปิด -2.45%, หุ้น Nisshin Steel เปิด -2.19% และKobe Steel เปิด -2.59%

• นักบริหารเงิน คาดว่า วันศุกร์เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.35-31.55 บาท/ดอลลาร์ หลังจากที่ค่าเงินบาทแข็งค่าจาก แรงเทขายดอลลาร์ของผู้ส่งออก

• ธปท.เผยแพร่รายงานการประชุม กนง. เมื่อวันที่ 14 ก.พ.61 โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องและชัดเจนมากขึ้น โดยได้รับแรงส่งจากต่างประเทศรวมทั้งอุปสงค์ในประเทศที่ปรับดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อมีทิศทางปรับสูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เสถียรภาพระบบการเงินโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี แต่มีความเสี่ยงในบางจุดที่อาจสะสมความเปราะบางในระบบการเงินระยะต่อไป

นอกจากนี้ ยังระบุว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนม.ค.61 ขยายตัวต่อเนื่อง จากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวสูง และภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี สอดคล้องกับอุปสงค์ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวดีในทุกหมวดการใช้จ่าย ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวตาม สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐกลับมาขยายตัวจากรายจ่ายลงทุน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวเล็กน้อยจากเดือนก่อน

• สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนม.ค.61 อยู่ที่ระดับ 115.65 จาก 111.81 ของช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัว 3.44% เป็นผลจากการส่งออกที่ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กำลังซื้อในประเทศมีทิศทางที่ดีเช่นเดียวกัน

• สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในเดือนม.ค.61 จำนวน 21,107 ล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 47% เมื่อเทียบผลเบิกจ่ายช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเป็นผลมาจากการเร่งลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีเขียวของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และโครงการจัดหาเครื่องบินของ บมจ. การบินไทย (THAI) ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อเนื่อง