• ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 0.3% บริเวณ 1,326.41 เหรียญ โดยทำจุดสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 1,327.03 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของวันที่ 27 ก.พ. ท่ามกลางแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ จากความไม่นอนของผลการเลือกตั้งในอิตาลี ที่อาจกลายเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจยูโรโซนได้
ด้านราคาสัญญาทองคำตลาด COMEX ปรับสูงขึ้น 0.3% บริเวณ 1,327.70 เหรียญ
• ดัชนีดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักที่บริเวณ 89.971 จุด หลังจากไปอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับโอกาสเกิดสงครามทางการค้าขึ้นจากนโยบายเชิงกีดกันการค้า หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศจะขึ้นภาษีของเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้า
• นักวิเคราะห์จาก OANDA ประเมินว่า สัญญาณใดๆที่หนุนให้เกิดสงครามทางการค้าขึ้น ล้วนแต่จะเป็นผลบวกให้แก่ราคาทองคำ เนื่องจากการเข้าซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความไม่มั่นคงทางการเมือง ขณะที่ปริมาณอุปสงค์ของสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นหรือพันธบัตรจะถูกลดลงไป
• ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวในแดนลบ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มในการเกิดสงครามการค้าและความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งในอิตาลี
• นักวิเคราะห์จาก Shandong Gold Group. กล่าวว่า ความไม่มั่นคงการเมืองอิตาลีเป็นปัจจัยช่วยหนุนราคาทองคำ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจยูโรโซน
• ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นในอิตาลีแสดงให้เห็นว่า ไม่พรรคใดที่สามารถครอบครองเสียงข้างมากได้อย่างเป็นเอกฉันท์ ซึ่งถ้าหากผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการประกาศออกมาสอดคล้องกับผลเบื้องต้น อิตลีอาจจะประสบกับภาวะรัฐสภาแขวนต่อไป ซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่ให้กับทางสหภาพยุโรป
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มจะสามารถปรับขึ้นไปที่ระดับ 1,332 เหรียญได้ เนื่องจากสามารถผ่านแนวต้าน 1,325 เหรียญมาได้
• ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.6% บริเวณ 16.58 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินั่มปรับสูงขึ้น 0.6% บริเวณ 965.49 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.3% บริเวณ 994.50 เหรียญ