• ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ แต่ตลาดยังมีปัจจัยบวกจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของอิตาลีหลังทราบผลการเลือกตั้ง ประกอบกับความวิตกกังวลจากความเป็นไปได้เกี่ยวกับภาวะสงครามการค้า หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่อาจสั่นคลอนความสัมพันธ์กับทางยุโรปและประเทศแคนาดาได้
• ราคาทองคำตลาดโลกปรับลง 0.2% ที่ระดับ 1,319.82 เหรียญ หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 27 ก.พ. บริเวณ 1,327.86 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดลดลง 3.5 เหรียญ คิดเป็น -0.3% ที่ระดับ 1,319.9 เหรียญ
• นักวิเคราะห์จาก TD Securities กล่าวว่า สิ่งที่จะช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ คือกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่ประธานเฟดคนใหม่ให้สัญญาณต่อทิศทางเชิงบวกและโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยจำนวน 4 ครั้ง
• ผลการเลือกตั้งอิตาลีประสบภาวะรัฐสภาแขวน ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดการณ์ จะไม่มีพรรคใดของอิตาลีที่จะสามารถทำการแก้ไขร่างกฎหมายได้เพียงลำพัง และมีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะเห็นร่วมกันหรือเป็นรัฐบาลสายกลาง
• นักวิเคราะห์ มองว่า กระแสเกี่ยวกับสงครามการค้าเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนทองคำ เพราะไม่แน่ใจว่าจะบั่นทอนโอกาสการดำเนินนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดหรือไม่
• นักวิเคราะห์จากคิทโก วิเคราะห์ว่า ภาพระยะสั้นของทองคำยังเป็นขาขึ้น แต่ภาพระยะยาวในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นขาลง โดยทองคำระยะสั้นจะขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งต้อง Breakout เหนือระดับแนวต้านสำคัญทางเทคนิคซึ่งเป็นจุดสูงสุดในสัปดาห์ที่แล้วบริเวณ 1,342.9 เหรียญ ในทางกลับกันหากทองคำ Breakout หลุดแนวรับวันนี้จะกลับลงทดสอบแนวรับสำคัญทางเทคนิคบริเวณ 1,300 เหรียญ โดยวันนี้คาดว่า ราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 1,315 เหรียญ และ 1,309 เหรียญตามลำดับ ขณะที่แนวต้านด้านบนจะอยู่ที่ 1,328.9 เหรียญ และ 1,335 เหรียญตามลำดับ
• ตลาดทองคำกำลังรอการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานภาครัฐบาลสหรัฐฯในคืนวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยที่บ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้
• กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยยังคงถือครองทองคำที่ระดับ 833.98 ตัน
• ราคาซิลเวอร์ปิด -0.5% ที่ระดับ 16.4 เหรียญ หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์บริเวณ 16.6 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด -0.2% ที่ระดับ 960.5 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด -0.9% ที่ระดับ 982.47 เหรียญ
Thai
Eng