MTS Help Center

• ดัชนีดาวโจนส์ปิดขึ้น 336.7 จุด คิดเป็น +1.37% ที่ระดับ 24,874.76 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +1.10% ที่ระดับ 2,720.94 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +1% ที่ระดับ 7,330.71 จุด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวขึ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะสงครามทางการค้าที่ลดน้อยลง โดยกลุ่มนักลงทุนกำลังมองว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจลดท่าทีคุกคามนานาประเทศจากแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม ขณะเดียวกันการที่ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นจากการผ่อนคลายความกังวลจากการเลือกตั้งอิตาลี ก็ช่วยหนุนให้หุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวและหนุน 3 ดัชนีหลักของตลาดสหรัฐฯ

• รายงานจากรอยเตอร์ ระบุว่า นักลงทุนเริ่มจับตาไปยังท่าทีคุกคามทางการค้าของนายทรัมป์ ที่อาจเป็นเครื่องมือในการเจรจาหลังจากมีการทวิตเตอร์ว่า แคนาดาและเม็กซิโกอาจหลีกเลี่ยงข้อเสนอการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของเขาได้ หากว่าพวกเขายินยอมต่อเงื่อนไขสหรัฐฯในการเจราจาข้อตกลง NAFTA

นอกจากนี้ นักลงทุนในตลาดยังคงจับตาท่าทีหลังทราบผลการเลือกตั้งอิตาลี เพราะถึงแม้ผลที่ออกมาจะพบว่าพรรคประชานิยมได้รับชัยชนะอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่มีพรรคการเมืองใดจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างมีเสถียรภาพ

• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก หลังบรรดานักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มในการเกิดสงครามทางการค้า โดยเช้านี้ดัชนี Nikkei เปิด +2.03% หรือ +426.97 จุด หลังลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เมื่อวานนี้ ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่บริเวณ 106.32 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีMSCI เปิด +0.5%

ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +1.16% ท่ามกลางการฟื้นตัวขึ้นของหุ้นทุกภาคส่วนในตลาด รวมไปถึงหุ้นกลุ่ม Chipmakers และกลุ่มผู้ผลิตเหล็ก

• นักบริหารเงิน คาดกรอบเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวระหว่าง 31.35-31.50 บาท/ดอลลาร์ และประเมินว่าในช่วงนี้ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินยังไม่ชัดเจน แต่แนะนำให้จับตาการประชุมอีซีบี ในวันพฤหัสบดี, การประชุมบีโอเจวันศุกร์ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในคืนวันศุกร์นี้