• ดัชนีดาวโจนส์ปิด -0.33% ที่ระดับ 24,801.36 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.05% ที่ระดับ 2,726.8 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.33% ที่ระดับ 7,396.65 จุด
โดยดัชนีดาวโจนส์ได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มผู้ผลิตอย่างบริษัท Caterpillar ที่ร่วงลงไปกว่า 1.5% และหุ้น Boeing ที่ปิดร่วงลง 0.5%
ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดลดลงท่ามกลางความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดจากนโยบายการค้าของนายทรัมป์ เกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีนำเข้า แต่อาจให้การยกเว้นแก่ประเทศเม็กซิโก และแคนาดา
รวมไปถึงตลาดกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามทางการค้ามากขึ้น หลังจากที่นายแกรรี่ โคห์น ประกาศลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของนายทรัมป์
• ตลาดหุ้นเอเชียกลับมาเปิดบวกในเช้านี้หลังจากที่ร่วงลงไปจากข่าวความกังวลต่างๆที่เกิดขึ้น โดยดัชนีของญี่ปุ่นอย่างดัชนีนิกเกอิเปิด +0.89% และดัชนี Topix เปิด +0.73% ขณะที่ดัชนี Kospi เปิด +0.59% ท่ามกลางความแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และเทคโนโลยี
• นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆระหว่าง 31.30 -31.40 บาท/ดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อวานนี้ปรับแข็งค่าลงมาค่อนข้างมากจากข่าวที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศลาออก
• สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงยุติธรรม และกฤษฏีกา เข้าหารือเกี่ยวกับแนวทางการร่างกฏเกณฑ์ควบคุมดูแลการระดมทุนด้วยการออก ICO และสกุลเงินดิจิทัล
โดยคาดว่าร่างกฏเกณฑ์ควบคุมดูแล ICO และสกุลเงินดิจิทัลน่าจะมีความชัดเจนภายใน 1 เดือน โดยจะเน้นการกำกับดูแลดำเนินการให้ถูกต้องตามกฏหมาย มีประสิทธิภาพ และแก้ปัญหาให้รวดเร็ว