• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 8 มีนาคม 2561

    8 มีนาคม 2561 | Economic News


• ภาพรวมค่าเงินดอลลาร์เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่วานนี้ ท่ามกลางนักลงทุนที่รอคอยการเปิดเผยรายละเอียดของการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเป็นปัจจัยสร้างความกังวลเกี่ยวกับภาวะสงครามการค้าระดับโลก ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.05% ที่ระดับ 89.576 จุด

• ค่าเงินเยนได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากประเด็นดังกล่าวในฐานะ Safe-Haven จึงทำให้ค่าเงินเยนลงไปทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 14 เดือนบริเวณ 105.23 เยน/ดอลลาร์ ก่อนจะกลับมาทรงตัวบริเวณ 106.05 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินยูโรรอประชุมอีซีบีวันนี้ จึงจะเห็นได้ถึงการทรงตัวแถวระดับ 1.2411 ดอลลาร์/ยูโร

อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้ทางทำเนียบขาว ระบุว่า ประเทศแคนาดา, เม็กซิโก และบางประเทศอาจได้รับการยกเว้นจากการเก็บภาษีนำเข้าได้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ทางทำเนียบขาว เปิดเผยว่า นายทรัมป์น่าจะลงนามการเรียกเก็บภาษีนำเข้าดังกล่าวในคืนวันนี้

ขณะที่ภาพรวมดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องจากวันอังคารที่ผ่านมา หลังทราบข่าวการประกาศลาออกของนายแกรี โคห์น ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจระดับสูงของนายทรัมป์

• นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ กล่าวเตือนว่า จะไม่มีใครเป็นฝ่ายชนะในสงครามการค้า และสงครามการค้าจะส่งผลเสียหรือความเสียหายให้กับทุกฝ่าย

• ผู้อำนวยคณะกรรมาธิการด้านการค้าของยุโรป กล่าวว่า อียูพร้อมที่จะตอบโต้ต่อแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ แต่ก็ยังคาดหวังว่าพวกเราอาจจะสามารถหลีกเลี่ยงประเด็นดังกล่าวได้ เนื่องจากสงครามการค้าจะไม่มีผู้ใดเป็นฝ่ายชนะจากเรื่องนี้ จึงจะเป็นการดีกว่าหากเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น และทำให้เราร่วมมือกันได้ฉันท์มิตร ทั้งกับสหรัฐฯเอง หรือประเทศพันธมิตรอื่นๆ แต่หากสหรัฐฯดำเนินการดังกล่าวจริง ทางอียูก็จะหามาตรการเพื่อป้องกันแรงงานชาวยุโรป

• ทางทำเนียบขาวได้ออกมาส่งสัญญาณว่า นโยบายปรับเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กอีก 25% และอลูมิเนียมอีก 10% มีแนวโน้มที่คู่ค้าบางประเทศจะได้รับการยกเว้น เช่นเดียวกับแคนาดาและเม็กซิโก ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ น่าจะมีการลงนามอนุมัติ รวมถึงเปิดเผยรายละเอียดของนโยบายดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ภายในค่ำคืนนี้

อย่างไรก็ตาม นโยบายเพิ่มภาษีนำเข้าของนายทรัมป์ ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Harley-Davidson และ Caterpillar ที่อาจต้องเผชิญกับมูลค่าของเหล็กนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นตามมา และลดความสามารถในการแข่งขันในตลาดส่งออกลงไป ซึ่งเป็นผลกระทบที่ตรงกันข้ามกับคำสัญญาของนายทรัมป์ ที่ได้สัญญาว่าจะช่วยให้ภาคการผลิตของสหรัฐฯกลับยิ่งใหญ่อีกครั้

• ผลการประกาศข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ โดย ADP พบว่าออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดแตะระดับ 235,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่เดือนก่อนหน้ามีการปรับทบทวนข้อมูลขึ้นมาที่ 244,000 ตำแหน่ง จึงยังบ่งชี้ถึงสัญญาณที่แข็งแกร่งของตลาดแรงงาน

• รายงาน Beige Book ของเฟด บ่งชี้ว่า เงื่อนไขทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคของสหรัฐฯยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยสัญญาณการขยายตัวของค่าแรงที่เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา

• เมื่อคืนนี้ นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า กล่าวว่า ข้อเสนอเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และความเป็นไปได้ที่ทั่วโลกจะเอาคืนหรือตอบโต้ อาจบั่นทอนการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯได้ รวมทั้งอาจทำให้เฟดต้องชะลอแนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป

• ขณะที่นายวิลเลียม ซี. ดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กไม่ได้กล่าวเกี่ยวกับนโยบาการเงินใดๆ เพียงแต่มีการเข้าพบกับองค์กร USVI ที่องค์กรเซนต์โธมัส เพื่อหารือถึงเงื่อนไขทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยเขาจะทำการจับตาการพัฒนาหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐฯอย่างใกล้ชิด หลังจากที่เผชิญกับพายุเฮอริเคนที่ผ่านมา เพื่อให้หมู่เกาะดังกล่าวกลับมาและฟื้นคืนได้อีกครั้ง

• นายสตีเฟ่น มนูชิน กล่าวว่า การผ่านร่างกฎระเบียบเพื่อผ่อนคลายการดำเนินการของภาคธนาคารอาจเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของภาคธนาคารได้

• สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า สภาคองเกรสจะต้องหาวิธีเพื่อจ่ายงบประมาณจำนวนมากในการชดเชยกับภาวะขาดแคลนงบประมาณที่เกิดขึ้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายสำหรับทางหลวง สะพานต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ โดยสหรัฐฯเผชิญงบประมาณคมนาคมสูงเกือบ 1.4 แสนล้านเหรียญ นับตั้งแต่ปี 2008 และยอดค่าใช้จ่ายก็ยังอยู่ในระดับดังกล่าวในปัจจุบัน ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ต้องหางบประมาณเพิ่มให้ได้ 1.07 แสนล้านเหรียญในช่วงระหว่างปี 2021 – 2026

• การประชุมอีซีบี ที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ทางอีซีบี จะยังไม่มีการส่งสัญญาณเพิ่มเติมใดๆ เกี่ยวกับการยกเลิกนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ท่ามกลางภาวะไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะจากประเด็นความเสี่ยงที่อาจเกิด Trade War ขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯมีแนวคิดจะเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม สำหรับการเลือกตั้งของอิตาลี ที่ผลออกมาไม่มีพรรคใดสามารถครอบครองเสียงข้างมากได้ ดูจะไม่ส่งผลกระทบต่อแนวทางการดำเนินนโยบายของอีซีบีเท่าไรนัก

นอกจากนี้ยังคาดว่า ทางอีซีบีจะยังไม่มีการปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเงินเฟ้อแต่อย่างใด แม้เศรษฐกิจยูโรโซนจะสามารถขยายตัวได้ดีก็ตาม

• ราคาน้ำมันดิบปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ จากตลาดการเงินที่อ่อนตัวท่ามกลางความกังวลจากแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของนายทรัมป์ที่อาจจุดชนวนให้เกิดสงครามทางการค้า โดยน้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 1.45 เหรียญ คิดเป็น -2.2% ที่ระดับ 64.34 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.45 เหรียญ คิดเป็น -2.3% ที่ระดับ 61.15 เหรียญ/บาร์เรล โดยถือเป็นระดับเปอร์เซ็นการร่วงลงระดับวันมากที่สุดนับตั้งแต่ 9 ก.พ.


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com